ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 19.98 จุดหลังจำนวนคนว่างงานสหรัฐลดลง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 11, 2012 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างงานที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน และข่าวรัฐบาลสเปนที่ตัดสินใจเทคโอเวอร์กิจการธนาคารบังเกีย เพื่อป้องกันความเสี่ยงในภาคธนาคาร

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 19.98 จุด หรือ 0.16% ปิดที่ 12,855.04 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 3.41 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 1,357.99 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 1.07 จุด หรือ 0.04% ปิดที่ 2,933.64 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งถือเป็นการฟื้นตัวขึ้นจากการร่วงลงติดต่อกัน 6 วันทำการก่อนหน้านี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 พ.ค. ลดลง 1,000 ราย มาอยู่ที่ 367,000 ราย จากระดับ 368,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 365,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยคลายความวิตกเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ

นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลกลุ่มยูโรโซนตัดสินใจอนุมัติเงินช่วยเหลือกรีซวงเงิน 5.2 พันล้านยูโร จากกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) หลังจากที่กรีซได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะผ่านมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่มุลค่า 1.45 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนหน้า และให้คำมั่นว่าจะดำเนินการมาตรการปฏิรูปด้านอื่นๆ

นักลงทุนยังคงติดตามสถานการณ์ทางการเมืองของกรีซ หลังจากนายอีวานเจลอส เวนิเซลอส หัวหน้าพรรค PASOK หรือพรรคสังคมนิยมของกรีซ เป็นแกนนำจัดการเจรจากับพรรคการเมืองต่างๆ เพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสมเมื่อวานนี้ ภายหลังจากผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมาไม่มีพรรคใดที่ได้คะแนนเสียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้

ตลาดได้แรงหนุนมากขึ้นจากรายงานที่ว่า รัฐบาลสเปนทำข้อตกลงแปรรูปธนาคารบังเกีย ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 ของสเปน ซึ่งเป็นความพยายามที่จะหนุนภาคการธนาคารที่ย่ำแย่และเพื่อขจัดความกังวลเกี่ยวกับศักยภาพของรัฐบาลในการสางปัญหาในภาคการเงินที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายปี

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวันหลังจากสหรัฐเปิดผยข้อมูลด้านการค้าที่อ่อนแอ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐในเดือนมี.ค. ทะยานขึ้น 14.1% สู่ระดับ 5.183 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงถึง 12.4% ในเดือนก.พ. โดยสาเหตุที่ทำให้ยอดขาดดุลกลับมาดีดตัวขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูง และการนำเข้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ที่เพิ่มขึ้น

หุ้นซิสโก ซิสเทมส์ร่วง 10.5% หลังคาดการณ์ผลกำไรต่ำกว่าประมาณการ ของตลาดวอลล์สตรีท

หุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 6.9% จากการคาดการณ์ที่ว่าบริษัทอาจจะขาดทุนมากขึ้นในไตรมาส 2 ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 3.7% และหุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 2.5%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. ในเวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย และรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ค. ในเวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ