MAJOR ลบ 3.38% โบรกฯเตรียมปรับคำแนะนำลง-การเติบโต Q2-Q3/55ยังท้าทายสูง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 11, 2012 11:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น MAJOR ราคาไหลลง 3.38% มาอยู่ที่ 20 บาท ลดลง 0.70 บาท มูลค่าซื้อขาย 40.61 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.28 น. โดยเปิดตลาดที่ 20.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 20.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 19.80 บาท

บล.เกียรตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯยังคงคำแนะนำเพียง"ถือ"หุ้น บมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป(MAJOR)และเตรียมปรับคำแนะนำลง หลังจากราคาหุ้นเพิ่มขึ้นสูงกว่าราคาเหมาะสม(12 เดือน)ที่ประเมิน 14% แล้ว

ในงวด Q2-Q3/55 มีความท้าทายสูงในการสร้างการเติบโต เนื่องจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีภาพยนตร์ทำรายได้ Box Office สูงมากหลายเรื่อง ขณะที่ในปีนี้กลับมีปัจจัยกดดันจากกิจกรรมระดับโลก 2 รายการอาจทำให้ความถี่ในการเข้าชมภาพยนตร์ของกลุ่มเป้าหมายลดลง

ส่วนการร่วมทุนกับ GRAMMY มองว่าเป็นการลงทุนเพื่อเปิดบริการคาราโอเกะที่เมกกะบางนาเท่านั้น ทุนจดทะเบียนเพียง 20 ล้านบาท ไม่น่าจะมีผลต่อผลประกอบการโดยรวมของ MAJOR มากนัก และคาดว่ารายได้จากธุรกิจดังกล่าวยังไม่น่ามีนัยสำคัญ จึงยังคงประมาณการผลประกอบการปี 55 ไว้เท่าเดิม

MAJOR ประกาศผลประกอบการงวด Q1/55 มีกำไร 233 ล้านบาท ดีกว่าที่คาด 7% อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่ทำให้กำไรดีกว่าคาดเกิดจากการมีรายการพิเศษที่เกิดเพียงครั้งเดียว(one-time item)ประกอบด้วย การรับรู้ค่าเคลมประกันภัยของสาขาบางนา และกำไรจากการขายหุ้น SF(13.67 ล้านหุ้น)จำนวน 62 ล้านบาท โดย MAJOR ยังคงมีสัดส่วนการถือหุ้นใน SF เหลืออีก 23%

ขณะที่กำไรจากธุรกิจปกติต่ำกว่าคาด ขณะที่หากพิจารณาที่ผลประกอบการปกติจะพบว่ามีกำไรขั้นต้นต่ำกว่าที่คาด 11% เนื่องจากรายได้ค่าโฆษณาในโรงภาพยนตร์ฟื้นตัวน้อยกว่าคาด ~15% และผลประกอบการจากธุรกิจโรงภาพยนตร์ต่ำกว่าที่คาดราว 10-15%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ