นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) กล่าวว่า ปี 55 จะเป็นปีทองแห่งการเก็บเกี่ยว บริษัทฯคาดว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และผลกำไรจากทั้งธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนขยายธุรกิจในต่างประเทศในช่วงที่ผ่านมา
ประกอบกับ ความไว้วางใจและเชื่อมั่นของลูกค้า การก้าวขึ้นเป็นผู้ค้าส่งแอลพีจีรายใหญ่และผู้นำระดับภูมิภาค อีกทั้ง ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการบริหารต้นทุนแก๊สและสินค้าคงคลังอย่างมีประสิทธิภาพ ก็เป็นปัจจัยสำคัญในปีนี้ที่จะช่วยส่งผลให้บริษัทฯมีผลประกอบการที่มีรายได้แตะระดับ 50,000 ล้านบาท และผลกำไรที่เติบโตตามรายได้และสูงกว่าในทุกปีที่ผ่านมา
"ด้วยความสามารถเก็บแก๊สได้ถึง 300,000 ตันของคลังก๊าซในประเทศจีน ยังสามารถรองรับการเพิ่มยอดขายได้อีกมาก จึงมั่นใจว่าบริษัทจะยังมีอัตราการเติบโตทั้งรายได้และผลกำไรที่ดีในปีต่อๆไป"นายศุภชัย กล่าว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 55 บริษัทฯ มีรายได้ 11,322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 8,689 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 747 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ทำกำไรสุทธิ 304 ล้านบาท
ปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของ SGP มาจากการเติบโตของยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยยอดขายในประเทศมีอัตราเพิ่มขึ้น 5% ขณะที่ตลาดต่างประเทศ ก็มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นถึง 8%
และในไตรมาส 1/55 บริษัทฯได้ใช้ประโยชน์จากคลังเก็บแก๊สแอลพีจีที่เมืองจูไห่และเมืองซัวเถาในประเทศจีนซึ่งเก็บแก๊สแอลพีจี รวมกันได้ถึง 300,000 ตัน ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ในการเก็บเกี่ยวผลกำไรตามฤดูกาลด้วยความสามารถในบริหารจัดการสินค้าคงคลังได้เหมาะสมกับแนวโน้มความต้องการใช้แก๊สแอลพีจีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"การลงทุนในคลังแก๊สที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ในปี 54 ที่ผ่านมา SGP ก้าวขึ้นเป็นผู้นำเข้าและส่งออกอันดับหนึ่งของประเทศจีน เป็นที่ยอมรับในตลาดการค้าก๊าซในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะเป็นผลดีในการทำตลาดในอนาคตอีกด้วย ปัจจุบันผู้ค้าแก๊สรายใหญ่ในจีนและประเทศใกล้เคียงหลายรายหันมาซื้อแก๊สจากเรา ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวเริ่มส่งผลให้เห็นผลงานที่บริษัทสามารถเก็บเกี่ยวผลกำไรได้ตามความคาดหมายในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา"นายศุภชัย กล่าว