นายดีลิป กุมาร์ อากาวาว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ PET บมจ.บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) คาดรายได้ในไตรมาส 2/55 จะเติบโต 20% จากไตรมาส 1/55 ที่มีรายได้ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากปริมาณผลิตที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.4 ล้านตัน จาก 1.2 ล้านตันในไตรมาสแรกของปี และมีการใช้อัตรากำลังการผลิตเพิ่มเป็น 88% จากไตรมาส 1/55 ที่ 85% หลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ MEG ในสหรัฐ
ส่วนทั้งปี 55 คาดว่ารายได้จะเติบโต 20% จากปีก่อนที่อยู่ 6.11 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยเติบโตจากปริมาณการผลิตทีเพิ่มเป็น 5.5 ล้านตัน เพิ่มจากปีก่อนที่มี 4.4 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 25% โดยเพิ่มจากกำลังการผลิตในจีน 5 แสนตัน และในเนธอร์แลนด์ 2 แสนตัน รวมทั้งโรงงานที่ลพบุรีเริ่มดำเนินการอีกครั้งหลังประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปลายปีก่อน โดยเปิดการผลิตใหม่ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
"กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเหล่านี้จะส่งผลให้ผลประกอบการในปี 55 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยไตรมาส 1 ที่ผ่านมา มองว่าเป็นระดับต่ำสุดของปี และหลังจากนั้นจะเพิ่มขึ้นจากการผลิตที่เพิ่มขึ้น"นายอากาวาว กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนสเปรด PTA ณ ปัจจุบันได้ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 135 เหรียญ/ตัน จากไตรมาส 1/55 ที่อยู่ 128 เหรียญ/ตัน โดยราคา ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ 1,150 เหรียญ/ตัน สาเหตุมาจากผู้ผลิตเกาหลีใต้และจีนประสบผลขาดทุน จึงหยุดการผลิต
นายอากาวาว กล่าวว่า ตลาดหลักของบริษัทอยู่ที่สหรัฐ และ ยุโรป ทั้งสองตลาดยังมีสเปรดดีอยู่ แต่มองว่าเอเชียยังจะประสบปัญหาโอเวอร์ซัพพลายไปอย่างน้อยอีก 2 ปี ขณะที่ป้ญหากรีซกับฝรั่งเศส ไม่ได้กระทบกับบริษัท เพราะตลาดส่วนใหญ่อยู่ที่ยุโรปตอนเหนือ ซึ่งมีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
นายอากาวาว กล่าวว่า บริษัทยังไม่ตัดสินใจเข้าไปลงทุนพม่า เพราะเห็นว่ายังเร็วเกินไป นอกจากนั้น พม่ายังไม่มีวัตถุดิบเพียงพอในการผลิต ส่วนการเข้าซื้อกิจการในอินโดนีเซีย คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/55 และคาดว่าจะสร้างกำไรได้ทันทีในครึ่งปีหลัง