ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: วิตกการเมืองกรีซ,เยอรมนี ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่ากรีซอาจจะถูกกดดันให้ออกจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน หลังจากที่กรีซยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าพรรคการเมืองของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล แพ้การเลือกตั้งระดับรัฐในเยอรมนี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.8% ปิดที่ 247.43 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 6,451.97 จุด ลดลง 127.96 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5465.52 ลบ 110.00 จุด และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,057.99 จุด ลดลง 71.78 จุด

หัวหน้าพรรคการเมืองที่เข้าร่วมเจรจาการจัดตั้งรัฐบาลของกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาในเรื่องดังกล่าวซึ่งประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอาส เป็นประธานในการประชุมนั้น ไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นใหญ่ๆ และกรีซจะจัดให้มีการเจรจาต่อไปอีกในวันนี้ (15 พ.ค.)

ทั้งนี้ ประธานาธิบดี คาโรลอส ปาปูลิอาส ยังคงไม่สามารถเจรจาทำข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพได้ หลังจากที่พรรค SYRIZA ซึ่งคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด ปฏิเสธร่วมรัฐบาลผสมในการเจรจาระหว่างหัวหน้าพรรคการเมือง

นอกจากนี้มีรายงานว่าพรรคคริสเตียน เดโมเครติค ยูเนียน (ซีดียู) ของนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พ่ายศึกเลือกตั้งในรัฐนอร์ท ไรน์-เวสท์ฟาเลีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ ขณะที่ พรรคโซเชียล เดโมเครติก พาร์ตี (เอสพีดี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก สามารถเก็บคะแนนเสียงในรัฐดังกล่าวได้มากขึ้น ส่งผลให้พรรคครองอำนาจในระดับรัฐบาลท้องถิ่น

หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง โดยหุ้นธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ร่วงลง 1.5% หุ้นดอยช์ แบงก์ ร่วงลง 4.1% และหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ ดิ่งลง 3.7%

หุ้นไอเอ็นจี กรุ๊ป ผู้ให้บริการด้านการเงินรายใหญ่ของเนเธอร์แลนด์ ร่วงลง 2% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ

หุ้นโนเกีย ร่วงลง 7.3% หลังจากนักวิเคราะห์ของโซซิเอเต เจนเนอราล ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว