หุ้น TRUBB ราคาร่วงลง 7.30% มาอยู่ที่ 3.30 บาท ลดลง 0.26 บาท มูลค่าซื้อขาย 7.10 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.45น. โดยเปิดตลาดที่ 3.30 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 3.48 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 3.28 บาท
บมจ.ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์คอร์ปอร์เรชั่น (ประเทศไทย)หรือ TRUBB และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวด ไตรมาส 1/55 ขาดทุนสุทธิ 25.62 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.05 บาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 255.02 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.58 บาท
พร้อมชี้แจงว่า ไตรมาส 1/55 บริษัทฯมีผลขาดทุนสุทธิ เพราะในช่วงปลายปี 54 ต่อเนื่องต้นปี 55 เป็นช่วงที่ไม่เอื้ออำนวยต่ออุตสาหกรรมยางพารา เนื่องจากความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ทำให้การบริโภคยางพาราอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับนโยบายการให้สินเชื่อที่เข้มงวดขึ้นและยอดขายรถยนต์ที่ต่าลงในประเทศจีน ทำให้ความต้องการใช้ยางพารามีน้อยลง ส่งผลให้ราคายางพาราลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาวัตถุดิบกลับสูงขึ้นจากการประกาศแทรกแซงราคายางให้อยู่ที่ 120 บาท/ กก.โดยรัฐบาล ทำให้การทำกำไรขั้นต้นต่อหน่วยของบริษัทโดยรวมลดลง
ในไตรมาส 1/55 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 4,132.38 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 792.93 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 16.1% เป็นผลจากราคาขายน้ำยางข้นที่ลดลงถึง 28% ในขณะที่สามารถคงปริมาณการขายทุกผลิตภัณฑ์ได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา และกลุ่มยางแท่งได้เริ่มสร้างยอดขายแล้ว ดังนั้น รายได้จาการขายและบริการจึงลดลงเพียง 16.1% ต้นทุนขายและบริการ 3,917.37 ล้านบาท ลดลง 480.50 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 10.9% ทำให้บริษัทมีกำไรขั้นต้น 215.02 ล้านบาท ลดลง 312.43 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 59.2%
ด้านค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ค่าใช้จ่ายทางการเงิน และภาษีเงินได้นิติบุคคล มีจำนวน 268.49 ล้านบาท ลดลง 25.70 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 8.7% ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ลดลงเป็นสัดส่วนน้อยกว่าที่รายได้ลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นทำให้ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ทำให้ดอกเบี้ยจ่ายสูงขึ้น ส่งผลต่อการทำกำไรของบริษัท บริษัทฯ มีรายได้อื่น 22.54 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งกาไรจากบริษัทร่วม 5.20 ล้านบาท โดยรวมแล้ว บริษัทฯ มีผลขาดทุน 25.62 ล้านบาท