นายอนนต์ สิริแสงทักษิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พีทีที โกลบอลเคมิคอล(PTTGC)คาดว่า กำไรขั้นต้นจากการผลิตราคาตลาด(MARKET GRM)ปีนี้จะอยู่ที่ 5-6 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งอยู่ในระดับสูง และคาดว่าจะยังทรงตัวสูงไปถึงปีหน้า เพราะกำลังการผลิตของตลาดโลกลดลงจากการปิดซ่อมบำรุง ขณะที่ความต้องการทรงตัวจากปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปและสหรัฐ
ขณะที่คาดว่าส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์(สเปรด) HDPE ในปีนี้อยู่ที่ระดับ 400-450 เหรียญ/ตัน โดยปีนี้เดินเครื่องเต็มกำลัง ซึ่งอัตราการใช้กำลังการผลิต(utilization rate)ของสายการผลิตโอเลฟินส์อยู่ในระดับ 90% โรงกลั่น 100% และสายอะโรเมติกส์ 98%
นายปฎิภาณ สุคนธมาน รองกรรมผู้จัดการใหญ่สายการเงินและบัญชี PTTGC คาดว่า ไตรมาส 2/55 MARKET GRM ใกล้เคียงในไตรมาสที่ 1/55 ที่ระดับ 5.77 เหรียญ/บาร์เรล แต่ไม่แน่ใจว่าจะขาดทุนสต็อกน้ำมันในไตรมาสนี้หรือไม่ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบดูไบปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับ 109 เหรียญ/บาร์เรล จากสิ้นไตรมาส 1/55 ที่ราคาอยู่ที่ 120 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งทำให้ไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน 3.71 เหรียญ/บาร์เรล
ด้านสเปรด HDPE คาดว่าจะปรับลดลงตามราคาน้ำมันมาที่ระดับ 370 เหรียญ/ตัน จากปลายสัปดาห์ที่แล้วขึ้นไปกว่า 400 เหรียญ/ตัน ส่วนสเปรดอะโรเมติกส์ยังอยู่เกณฑ์ดีใกล้เคียงไตรมาส 1/55 ที่ 590-600 เหรียญ/ตัน
อย่างไรก็ดี ปริมาณการผลิตในไตรมาส 2/55 สูงขึ้นราว 10% จากที่ไตรมาส 1/55 มีการปิดซ่อมบำรุงไป 30 วัน ทำให้ในไตรมาสนี้มีกำลังการผลิตอะโรเมติกส์เพิ่มอีก 8 หมื่นตัน และโอเลฟินส์ 5 หมื่นตัน
นายปฏิภาณ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 55 บริษัทจะออกหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจำนวนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านเหรียญ อายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี เสนอขายนักลงทุนต่างประเทศ โดยอยู่ระหว่างการหาผู้จัดจำหน่าย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือน มิ.ย.55 เพื่อนำเงินไปลงทุนและชำระหนี้ แบ่งเป็นจ่ายเงินลงทุนใน Perstorp ราว 114 ล้านยูโร ลงทุนใน Nature Works ราว 150 ล้านเหรียญ, ชำระคืนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดไถ่ถอนจำนวน 200 ล้านเหรียญ และจ่ายเงินปันผลกว่า 5 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม อีก 5 ปีข้างหน้าบริษัทจะมีกำหนดชำระคืนหุ้นกู้อีก 300 กว่าพันล้านเหรียญ ขณะเดียวกันบริษัทมีกระแสเงินสด ณ สิ้น มี.ค.55 ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท