ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงหลังจากตลาดเปิดทำการได้ไม่นานในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปได้บดบังปัจจัยบวกจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ทรงตัวในสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงผลประกอบการที่แข็งแกร่งของวอล-มาร์ท สโตรส์ ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 48 จุด แตะที่ 12,548 จุด ดัชนี S&P 500 ขยับลง 7 จุด แตะที่ 1,317 จุด และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 19 จุด แตะที่ 2,854 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กขยับลง แม้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 พ.ค. ทรงตัวอยู่ที่ 370,000 ราย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 4,750 ราย มาอยู่ที่ 375,000 ราย
ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากมีรายงานว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนปรับตัวสูงขึ้นมากในการประมูลพันธบัตรระยะกลาง 3 ชุดวันนี้ ซึ่งสเปนสามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายสูงสุดที่ 2.5 พันล้านยูโร (3.19 พันล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ สเปนขายพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนม.ค.2558 ได้ 372 ล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 4.375% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.890% ในการประมูลเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ขณะที่ความต้องการซื้อพันธบัตรสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลอยู่ที่ 4.5 เท่า ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 2.4 เท่าในการประมูลเดือนที่แล้ว ขณะที่พันธบัตรซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ค.2558 ขายได้ 1 พันล้านยูโร มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.876% เพิ่มขึ้นจาก 4.037% ในการประมูลเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา ความต้องการซื้อพันธบัตรสูงกว่ามูลค่าที่นำออกประมูลอยู่ที่ 3.0 เท่า เทียบกับ 2.9 เท่าก่อนหน้านี้
หุ้นวอล-มาร์ท พุ่งขึ้น 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ไตรมาสแรกทะยานขึ้น 10% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวของภาคค้าปลีก หลังจากที่ธุรกิจประเภทนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อันเป็นผลมาจากการที่ผู้บริโภครายได้ต่ำได้รับผลกระทบจากการว่างงานและการถูกยึดบ้าน
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง โดยหุ้น Chesapeake Energy ร่วงลง 4% ขณะที่หุ้น WPX Energy ร่วงลง 6%