ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หวั่นกรีซถูกบีบพ้นยูโรโซน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 21, 2012 05:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเป็นวันที่ 5 เมื่อวันศุกร์ (18 พ.ค.) หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง และกระแสความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะถูกบีบออกจากลุ่มยูโรโซน อันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 238.88 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6271.22 จุด ลบ 37.74 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3008.00 จุด ลบ 3.99 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5267.62 จุด ลบ 70.76 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า กรีซอาจจะต้องออกจากกลุ่มยูโรโซน หลังจากฟิทช์ เรทติ้งประกาศลดอันดับเครดิตตราสารหนี้กรีซจาก B- สู่ CCC จากความเสี่ยงที่ว่า กรีซอาจจะจำเป็นต้องออกจากยูโรโซน

ฟิทช์ระบุว่า ผลการเลือกตั้งรัฐสภาในวันที่ 6 พ.ค.แสดงว่า พรรคที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดได้รับการสนับสนุนอย่างมาก และการที่กรีซไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้กรีซมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู)-กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และหากว่ากรีซไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในวันที่ 17 มิ.ย. ก็มีความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากยูโรโซน

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ 16 แห่งของสเปน ซึ่งรวมถึงบังโค ซานตานเดร์ และบังโค บิลบาว วิซคายา อาร์เจนตาเรีย โดยระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของสเปนยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจสเปนได้กลับเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มูดีส์ตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารทั้ง 16 แห่ง

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า ราคาบ้านใหม่ในเมืองใหญ่ๆของจีนปรับตัวลงอีกครั้งในเดือนเม.ย. ขณะที่จีนยังคงดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทั้งนี้ บ้านใหม่ใน 43 จาก 70 เมืองใหญ่ของจีนมีราคาลดลงในเดือนเม.ย. จากเดือนมี.ค. โดยหุ้นริโอทินโต ร่วงลง 2.4% หุ้นเวแดนต้า รีซอสเซส ร่วงลง 2.7% และหุ้นเอ็กสตราต้าร่วงลง 4.3%

หุ้นบริษัทผลิตรถยนต์ร่วงลง โดยวอลโว่ ร่วงลง 4.6% หุ้นโฟล์คสวาเก้นร่วงลง 2% หุ้นพอร์ช ร่วงลง 2.4% และหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ร่วงลง 2.3%

ขณะที่หุ้นแซนด์วิค เอบี ผู้ผลิตอุปกรณ์ตัดโลหะรายใหญ่ระดับโลก ดิ่งลง 2.5% และหุ้นแอตลาส คอพโค ผู้ผลิตแอร์คอมเพรสเซอร์รายใหญ่ ร่วงลง 3.2%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ