ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,138.59 จุด ลดลง 15.85 จุด(-1.37%) มูลค่าการซื้อขาย 12,692.93 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวแดนลบตลอดช่วงเช้า โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,153.73 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,138.05 จุด
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงพอ ๆ กับตลาดหุ้นอินโดนีเซียที่ปรับตัวลงกว่า 1% แต่แรงกว่าตลาดเพื่อนบ้านที่ส่วนใหญ่จะแกว่งตัวในแดนบวก-ลบกระจายกันไป ทั้งนี้ เป็นผลจากการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติ ภายหลังจากที่ต่างชาติได้ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตมากในช่วงก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ โครงสร้างตลาดบ้านเราจะอิงกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์สูง อย่างพลังงาน และปิโตรเคมี ซึ่งเวลานี้ได้ถูกกดดันจากตลาดโลกที่มีความไม่แน่นอนสูง ทำให้ตลาดฯโดนแรงกดดันหนัก อีกทั้งยังมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในยุโรปทั้งจากกรีซและสเปน ที่ต่างแห่ถอนเงินกลับคืน ทำให้กังวลว่าหากยังแห่กันถอนเงินมาก ๆ แบงก์อาจจะขาดสภาพคล่องได้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า จะต้องรอดูสถานการณ์จากภายนอกประเทศเป็นหลัก ซึ่งมีความไม่แน่นอนสูง โดยเฉพาะในยุโรปยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับปัญหาได้ทันท่วงทีหรือเปล่า ส่วนปัจจัยในประเทศไม่ได้มีปัญหาอะไร บริษัทจดทะเบียนในไทยยังสร้างผลกำไรที่ดี พร้อมให้แนวรับ 1,140-1,130 จุด แนวต้าน 1,150-1,160 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 786.31 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท ลดลง 4.00 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 760.85 ล้านบาท ปิดที่ 140.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 704.16 ล้านบาท ปิดที่ 488.00 บาท ลดลง 10.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 675.11 ล้านบาท ปิดที่ 175.00 บาท ลดลง 5.50 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 650.05 ล้านบาท ปิดที่ 37.50 บาท ลดลง 1.25 บาท