(เพิ่มเติม) AGE คาด Q2/55 พลิกมีกำไรเล็กน้อย หลังหมดภาระตั้งสำรองฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 21, 2012 12:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี(AGE) คาดว่าไตรมาส 2/55 ผลประกอบการของบริษัทจะพลิกกลับมามีกำไรได้เล็กน้อย จากไตรมาสแรกที่ขาดทุนทางบัญชีเนื่องจากมีการตั้งสำรองราคาถ่านหินที่ปรับลดลง ขณะที่บริษัทคงเป้ารายได้ในปีนี้เติบโต 40% โดยเชื่อว่าครึ่งปีหลังรายได้จะฟื้นตัวดีกว่าครึ่งปีแรก ประกอบกับ ในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ท่าเรือและคลังถ่านหินแห่งใหม่ที่อยุธยาจะเปิดดำเนินการได้ ซึ่งจะช่วยให้ต้นทุนของบริษัทลดลง 1-2%

นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ AGE เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการงวดไตรมาส 2/55 ของบริษัทจะกลับมามีกำไรเล็กน้อย จากช่วงไตรมาส 1/55 ที่ขาดทุน 76 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขาดทุนทางบัญชี เนื่องจากราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับตัวลดลงทำให้บริษัทต้องมีการตั้งสำรอง 70 ล้านบาท แต่ในช่วงไตรมาส 2/55 จะไม่มีการตั้งสำรองอีกแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้ายอดขายปี 55 เติบโต 40% หรือแตะ 7 พันล้านบาท โดยคาดว่ายอดขายในช่วงครึ่งปีหลังจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะจากประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ซึ่งขณะนี้เริ่มมีความต้องการซื้อถ่านหินกลับมาเพื่อชดเชยสต๊อกที่ต่ำกว่าปกติ โดยคาดว่ายอดขายในช่วงครึ่งปีหลังจะเพิ่มเป็นประมาณ 1.5-2 พันล้านบาท จากช่วงครึ่งปีแรกที่คาดมียอดขายประมาณ 1 พันล้านบาท

ขณะที่สัดส่วนยอดขายปี 55 คาดว่ายอดขายต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 40% จากปีก่อนที่ 30% หรือมียอดขายเพิ่มเป็น 3 พันล้านบาท จากปีก่อนที่กว่า 1 พันล้านบาท ขณะที่ยอดขายในประเทศคาดว่าจะเติบโตเล็กน้อยประมาณ 10% หรือเพิ่มเป็น 4 พันล้านบาท จากปี 54 ที่กว่า 3 พันล้านบาท ทั้งนี้ อัตรากำไรสุทธิสำหรับการขายในต่างประเทศและในประเทศอยู่ในระดับเท่ากันที่ 5% แต่ปีนี้อาจจะลดลงเล็กน้อยเหลือประมาณกว่า 4% นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเจรจากับลูกค้าในประเทศใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งอินเดียและญี่ปุ่น จากปัจจุบันที่มีจีนเป็นลูกค้าหลักอยู่ 20 ราย

สำหรับความคืบหน้าในการซื้อเหมืองที่ประเทศอินโดนีเซีย บริษัทยังคาดว่าจะไดด้ข้อสรุปภายในปี 55 อย่างน้อย 1 เหมือง นอกจากนี้ บริษัทยังเข้าไปศึกษาซื้อเหมืองถ่านหินในประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม อย่างเช่น แอฟริกาใต้ซึ่งศึกษาอยู่ 3-4 เหมือง ซึ่งมีคุณภาพสูงกว่าเหมืองในประเทศอินโดนีเซียและเหมาะสำหรับลูกค้าในประเทศอินเดียเนื่องจากการขนส่งค่อนข้างใกล้

"ในอนาคตยอดขายต่างประเทศจะมากกว่าในประเทศแต่คงแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่วนเรื่องการซื้อเหมืองเรายังคงมีความตั้งใจอยู่ก็ยังหวังว่าจะจบในปีนี้ แต่ก็ต้องพิจารณาเรื่องคาวมเสี่ยงควบคู่กันไปด้วย อย่างที่อินโดฯช่วงปลายปีที่ผ่านมาก็เกือบจะจบแล้วก็พอเราเข้าไปดูจริงก็มีปัญหาในหลายเรื่องทั้งสเป็คไม่ได้ตามที่บอก พื้นที่ก็อยู่ในเชตป่า"นายพนม กล่าว

ด้านโรงงานคัดแยกถ่านหินที่จังหวัดสมุทรสาครได้กลับมาดำเนินการผลิตแล้ว แต่ในส่วนของท่าเรือยังไม่สามารถก่อสร้างได้ เนื่องจากติดคำสั่งของศาลปกครองที่ได้สั่งระงับไม่ได้เรือขนส่งถ่านหินเข้ามาในแม่น้ำท่าจีนเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งขณะนี้เหลือเวลาอีกประมาณ 5-6 เดือน ทำให้บริทได้มีการปรับแผนที่จะนำถ่านหินมาขึ้นที่ท่าเรือและคลังสินค้าที่จังหวัดอยุธยาแทน ซึ่งจะมีการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ และจะช่วยให้บริษัทประหยัดต้นทุนไปได้ 1-2% หรือตันละ 100 บาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ