(เพิ่มเติม) SLC คาดเริ่มเห็นกำไรในครึ่งปีหลัง แต่ทั้งปียังขาดทุนแม้ลดลงจากปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 21, 2012 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) (SLC) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 55 บริษัทจะเริ่มเห็นกำไร หลังจากบริษัท สปริงส์นิวส์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เริ่มคืนทุนในเดือน ก.ค.-ส.ค.55 แต่ทั้งปีบริษัทยังมีผลขาดทุน แม้ว่าจะลดลงจากปีก่อน และคาดว่าในปี 56 จะเห็นกำไรทั้งปี

บริษัทคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะอยู่ที่ 300 ล้านบาท สูงขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 200 ล้านบาท โดยเฉพาะจากรายได้โฆษณาขยายตัวต่อเนื่อง เห็นได้จากภาพรวมที่มีการย้ายโฆษณาจากฟรีทีวีมายังทีวีดาวเทียมมากขึ้น ยังไม่รวมการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ

นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับงานใหม่ราว 100 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50% จากมูลค่างานทั้งหมดที่จะเข้าประมูลประมาณ 200 ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันมีงานในมือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็ฯงานภาครัฐกว่า 80 ล้านบาท

"คิดว่าสิ้นปีนี้ยังขาดทุนอยู่ แต่ไตรมาส 3-4 จะเริ่มมีกำไร เพราะสปริงส์นิวส์เริ่มคืนทุนแล้ว สามารถสร้างรายได้ประจำให้บริษัทุกไตรมาส สิ้นปีคาดว่ารายได้จากสปริงส์นิวส์จะมีสัดส่วน 1 ใน 3 ส่วนงานประมูลภาครัฐส่วนใหญ่จะมีรายได้เข้าครึ่งปีหลัง ตามการใช้งบภาครัฐ"นายอารักษ์ กล่าว

สำหรับบริษัท สปริงส์นิวส์ ซึ่งเป็นผู้ดำเนินงานสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมและอินเตอร์เน็ต แม้ปัจจุบันจะมีรายได้ค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่อัตราค่าโฆษณายังต่ำกว่าฟรีทีวี โดยค่าโฆษณาของในช่องฟรีทีวี 1 นาที เท่ากับค่าโฆษณาในช่องทีวีดาวเทียมได้ 1 เดือน ประกอบกับผู้ชมรายการผ่านอินเตอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเดือนละ 20% แต่ฐานผู้ชมผ่านจานดาวเทียมยังทรงตัว

นายอารักษ์ ยังกล่าวว่า บริษัทไม่มีความสนใจเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิตอลแต่อย่างใด เพราะมองว่าแนวโน้มทีวีดาวเทียมยังขยายตัวได้อีก ขณะที่ บมจ.ไทยคม(THCOM) มีแผนยิงดาวเทียมไทยคม 6 และดาวเทียมอื่นอีก ซึ่งทีวีดาวเทียมเป็นคนละตลาดกับทีวีดิจิตอลที่เป็นไฮเอนต์ทีวี

นอกจากนี้ สปริงนิวส์มีแผนจะเปิดข่องใหม่ คือ รายการร่วมมือร่วมใจ ที่เน้นกิจกรรมด้านสังคม ซึ่งได้เริ่มออกรายการในช่องสปริงนิวส์ คาดว่าต้องรอให้มีฐานผู้ชมและจำนวนโฆษณามากกว่านี้จึงจะแยกเป็นอีกหนึ่งช่องได้ เพราะบริษัทมีค่าใช้จ่ายด้านเน็ตเวิร์คเดือนละ 2 ล้านบาท ขณะที่รายการข่าวสปริงนิวส์มีค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณกว่า 10 ล้านบาท

รวมทั้งบริษัทจะเริ่มทำการตลาดแยก segment ชัดเจนมากขึ้น โดยกลุ่มอายุ 20 ปีขึ้นไปที่มีกำลังซื้อจะแยกต่างหากออกจากลุ่มอายุ 15-20 ปี ที่มีดีมานด์แต่ไม่มีกำลังซื้อ จากปัจจุบันที่มีการขายโฆษณาแบบแพ็กเกจ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ