นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลจีนให้ดำเนินโครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมใหม่(Xin Nong Cun)ในจีน ซึ่งได้ประเดิมเป็นโครงการแรกที่เขตผิงกู่ ในนครปักกิ่ง โดยใช้โมเดล“สี่ประสาน"(Four in One)ผนึกกำลังความร่วมมือระหว่างผู้เกี่ยวข้อง 4 ฝ่ายได้แก่ รัฐบาล เกษตรกร บริษัทเอกชน และธนาคาร สร้างโครงการไก่ไข่ครบวงจรที่ทันสมัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย ภายใต้ชื่อ “โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์"สามารถเลี้ยงไก่ไข่ได้ถึง 3 ล้านตัว มีกำลังการผลิตไข่ไก่มากถึง 54,000 ตันต่อปี
โครงการดังกล่าวมีมูลค่าการลงทุนรวม 720 ล้านหยวนหรือประมาณ 3,600 ล้านบาท และมีเกษตรกรจีนได้รับประโยชน์จากการดำเนินโครงการนี้ถึง 1,608 ครอบครัว หรือประมาณ 5,000 คน
"โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์"ตั้งอยู่บนที่ดิน 779 ไร่ ณ หมู่บ้านซีฟาน เกอจวง(Xifan Gezhuang) ตำบลยู่โค(Yukou) เขตผิงกู่ นครปักกิ่ง ปัจจุบันเพิ่งก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ภายในโครงการครบวงจรประกอบไปด้วย โรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ระบบปิด จำนวน 18 หลังสามารถเลี้ยงไก่ได้ 3 ล้านตัว โรงงานผลิตอาหารสัตว์ และโรงงานแปรรูปไข่ ฯลฯ กระบวนการผลิตเกือบจะถูกควบคุมทั้งหมดด้วยคอมพิวเตอร์ กล่าวได้ว่าเป็นโครงการมีขนาดการเลี้ยงใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของเอเซีย และเป็นอันดับสองของโลก ทั้งยังกล่าวได้ว่าเป็นการก่อสร้างที่สร้างเสร็จในครั้งเดียวขนาดใหญ่ที่สุดและเป็นรายแรกของโลก
ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า “โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์" เกิดขึ้นตามโมเดลสี่ประสานซึ่งเป็นนวัตกรรมในการพัฒนาภาคเกษตรของรัฐบาลจีน โดยในโครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวฯแห่งนี้รัฐบาลนครปักกิ่ง เกษตรกร
และเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ลงทุนร่วมกันก่อตั้งบริษัท Beijing Guda Agricultural Investment จำกัด ขึ้นมาดำเนินการ โดยรัฐบาลปักกิ่ง และเครือเจริญโภคภัณฑ์ถือหุ้นกันฝ่ายละ 15 % ส่วนที่เหลืออีก 70% เป็นของเกษตรกรซึ่งรวมตัวกันถือหุ้นในนามของสหกรณ์การเลี้ยงสัตว์ในเขตพื้นที่สีเขียวของเมืองปักกิ่ง โดยมีธนาคารแห่งกรุงปักกิ่ง(Bank of Beijing)ประสานความร่วมมือในรูปของการให้สินเชื่อสนับสนุนการดำเนินโครงการ
บริษัท Beijing Guda Agricultural Investment ซึ่งเป็นเจ้าของโครงการได้ทำสัญญาว่าจ้างให้ บริษัท Beijing Chia Tai Eggs & Food จำกัดซึ่งเป็นบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์เช่าที่ดินและทรัพย์สินในโครงการเป็นระยะเวลา 20 ปี รวมถึงรับผิดชอบดูแลบริหารจัดการธุรกิจทั้งหมดทั้งด้านการผลิตและการตลาด ซึ่งเป็นการพัฒนารูปแบบใหม่ที่กล่าวได้ว่า “เกษตรกรเป็นเถ้าแก่ บริษัทเป็นลูกจ้าง"
โมเดลสี่ประสานนี้ สร้างประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ประการแรกรัฐบาลจีนได้ประโยชน์จากการนำนโยบายไปใช้ทำให้สามารถสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรและยกระดับอุตสาหกรรมทางการเกษตร ประการที่สองประโยชน์แก่เกษตรกรโดยตรง กล่าวคือได้รับรายได้จากการดำเนินโครงการนี้ปีละ ประมาณ 360 ล้านบาท ประโยชน์ประการต่อมาเป็นของธนาคารปักกิ่งซึ่งจะได้รับดอกเบี้ยจากการสนับสนุนสินเชื่อแก่โครงการนี้ ประการสุดท้ายประโยชน์แก่เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งได้แหล่งการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและได้ขยายตลาดเพิ่มขึ้นในปักกิ่ง
"โครงการไก่ไข่ 3 ล้านตัวผิงกู่-เครือเจริญโภคภัณฑ์" ได้นำเข้าเทคโนโลยีอุปกรณ์การเลี้ยงไก่ไข่ที่ทันสมัยของโลกและได้รวมเอาประสบการณ์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งเป็นผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารมาไว้ในโครงการนี้ จึงกล่าวได้ว่าเป็นโครงการต้นแบบที่มีการใช้เทคโนโลยีสูงที่สุดในธุรกิจการเลี้ยงไก่ไข่ของประเทศจีน และยังเป็นการผลิตไข่ไก่ที่มีระบบตรวจสอบย้อนกลับได้ในไข่ไก่ทุกฟอง เป็นการยกระดับมาตรฐานเทคโนโลยีอุปกรณ์ของธุรกิจการเลี้ยงไก่ไข่ในจีนให้มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้การผลิตผลิตภัณฑ์ไข่ไก่ของประเทศจีนพัฒนาไปในรูปแบบที่เป็นมาตรฐานคุณภาพดี ด้วยการใช้เทคโนโลยีทันสมัย สร้างความเชื่อมั่นด้านอาหารปลอดภัยแก่ผู้บริโภคทั้งในระดับประเทศและบนเวทีการค้าโลก
นอกจาก โครงการไก่ไข่ครบวงจรที่หมู่บ้านเกษตรกรรมใหม่ผิงกู่ ยังมีอีกหลายโครงการที่เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลจีนให้พัฒนาด้านการเกษตรทันสมัยในจีนและอยู่ระหว่างดำเนินการ อาทิ หมู่บ้านเกษตรกรรมใหม่ที่มณฑลจี๋หลิน ซึ่งจะเป็นการเลี้ยงไก่ไข่ 3 ล้านตัว/ปี สุกร 1 ล้านตัว/ปี และไก่เนื้อ 100 ล้านตัว/ปี หมู่บ้านเกษตรกรรมใหม่ที่เมืองจั้นเจียงซึ่งจะเลี้ยงเลี้ยงสุกร 1 ล้านตัว ไก่ 100 ล้านตัว รวมถึงเลี้ยงสัตว์น้ำ เป็นต้น