ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกกรีซออกจากยูโรโซน ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 1.67 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 23, 2012 06:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) หลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีของกรีซกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า กรีซกำลังพิจารณาเรื่องการออกจากกลุ่มยูโรโซน นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาหุ้นเฟซบุ๊กยังส่งผลบดบังปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหัฐ และทำให้นักลงทุนเข้ามาเทขายในช่วงท้าย หลังจากที่ตลาดปรับฐานขึ้นในช่วงก่อนหน้านั้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับลง 1.67 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 12,502.81 จุด แต่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 0.64 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 1,316.63 จุด ดัชนี Nasdaq ลดลง 8.13 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 2,839.08 จุด

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 3.4% สู่ระดับ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี นับเป็นการส่งสัญญาณว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ส่วนราคาบ้านเฉลี่ยในเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นแตะ 177,400 ดอลลาร์ ซึ่งปรับขึ้น 10.1% จากช่วงเดียวกันของปี 2554 ขณะที่สต็อกบ้านเพิ่มขึ้นแตะ 2.54 ล้านยูนิต

แต่ตลาดเริ่มอ่อนแรงลงเมื่อนายลูคัส ปาปาเดมอส อดีตนายกรัฐมนตรีกรีซกล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า กรีซกำลังพิจารณาเรื่องการออกจากกลุ่มยูโรโซน พร้อมกับเตือนว่าการร่วงลงของสกุลเงินยูโรอาจจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจกรีซและประเทศอื่นๆในยูโรโซน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากองค์การความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เตือนว่า 17 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเสี่ยงที่จะถลำลงสู่"ภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรง"

OECD เรียกร้องให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ดำเนินการมากขึ้นเพื่อยับยั้งวิกฤตด้วยการมุ่งความสนใจไปที่ประเด็นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ พร้อมกับเตือนว่านโยบายรัดเข็มขัดที่บังคับใช้ทั่วภูมิภาคได้ถ่วงการขยายตัวของเศรษฐกิจ และยังกล่าวด้วยว่า รัฐบาลในหลายประเทศในยุโรปทำให้จำเป็นต้องมีการลดการใช้จ่ายเพื่อลดปัญหาหนี้สิน แต่กระบวนการนี้ควรเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและในระยะยาว

หุ้นเฟซบุ๊กร่วงลง 8.9% หุ้นเดลล์ ดิ่งลง 12% หลังจากการ์ทเนอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยของสหรัฐเปิดเผยว่า ส่วนแบ่งตลาดพีซีของเดลล์ปรับตัวลดลงในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ ขณะที่หุ้นแอปเปิลร่วงลง 0.8%

อย่างไรก็ตาม หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ดีดตัวขึ้น 4.6% หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นเจพีมอร์แกน

หุ้นเบสท์ บาย พุ่งขึ้น 1.6% หุ้นราล์ฟ ลอเรน ผู้จำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังของสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.7% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดย วันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ