นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการเงิน บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา(CPN) คาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/55 น่าจะดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/55 เนื่องจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ได้ตามแผน และกำลังซื้อของผู้บริโภคดยังดี แต่ในแง่ของกำไรสุทธิจะได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำและค่าไฟที่ปรับค่า Ft แต่บริษัทจะพยายามรักษาระดับกำไรให้ดีที่สุด โดยจะเน้นบริหารงานภายในให้มีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ทั้งปี 55 ยังคงเป้าหมายรายได้เติบโต 25% เนื่องจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ทำได้ตามแผน และมีการปรับขึ้นค่าเช่าในพื้นที่ศูนย์การค้า โดยเฉพาะสาขาลาดพร้าวที่มีอัตราการเช่าเต็ม 100% สาขาพระราม 9 มีอัตราการเช่า 98% ศูนย์เซ็นทรัลเวิล์ด มีอัตรา 97% โดยจะมีแบรนด์ใหม่เข้ามา 2-3 แบรนด์ทำให้เป็นห้างที่ครบวงจรทั้งเรื่องอาหารและแฟชั่น
อีกทั้งการเปิดศุนย์การค้าใหม่ในปีนี้ มีจำนวน 3 แห่ง ซึ่งสาขาอุดรธานี เปิดไปแล้วเมื่อต้นปี และไตรมาส 4/55 จะเปิดสาขาที่สุราษฎร์ธานี และ ลำปาง
ขณะที่รายได้จากสาขาเดิม คาดว่าปีนี้จะเติบโต 7-8% โดยไตรมาส 1/55 เติบโต 8.2% เชื่อว่าช่วงที่เหลือของปีไม่น่าจะต่ำกว่า 7-8%
"ตลาดรีเทล ค่อนข้างมั่นใจว่าดีชึ้น กำลังซื้อโอเค ถ้าไม่มีอะไร ...ตราบเท่าที่ร้านค้ายอดขายโตดี ขายของได้ดี เราก็สามารถปรับค่าเช่าได้" นางสาวนภารัตน์ กล่าว
สำหรับแผนงานจากนี้ไปถึงปี 58 บริษัทมีนโยบายเปิดศูนย์การค้าใหม่ 2-3 แห่งต่อปี ใช้เงินลงทุนปีละ 1-1.3 หมื่นล้านบาท ทำให้ในปี 58 บริษัทจะมีศูนย์การค้าในเครือครบ 30 แห่ง รวมต่างประเทศ 1 แห่ง จากสิ้นปีนี้อยู่ที่ 20 แห่ง ทั้งนี้ สาขาใหม่ในต่างประเทศยังอยู่ระหว่างศึกษา แต่หากไม่สามารถสรุปการลงทุนได้ บริษัทก็จะเพิ่มสาขาในประเทศแทน ขณะที่โครงการสวมลุมไนท์บาร์ซ่า อยู่ระหว่างรอรับมอบที่ดิน
นางสาวนภารัตน์ กล่าวว่า ในเดือน มิ.ย.นี้ บริษัทจะออกหุ้นกุ้จำนวน 1 พันล้านบาท เพื่อไปชดเชยส่วนหนึ่งของหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอน 4 พันล้านบาท ที่เหลือจะใช้เงินกู้จากสถาบันการเงินไปชำระคืน และในช่วงเดือน ก.ย.-ธ.ค.55 มีแผนจะออกหุ้นกู้อีก 2 พันล้านบาท เพื่อชดเชยหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอนเช่นกัน
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาที่จะนำอาคารออฟฟิศเซ็นทรัลเวิลด์ขายเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพย์กองใหม่ มูลค่าไม่น้อยกว่า 4 พันล้านบาท คาดว่าจะศึกษาเสร็จภายในไตรมาส 3/55
สำหรับโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ นางสาวนภารัตน์ กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาจุดอ่อนจุดแข็งของโครงการ รวมทั้งขนาดโครงการที่ต้องใช้พื้นที่จำนวนมากที่ต้องรองรับความสะดวกลูกค้า ที่จอดรถ การบริหารพื้นที่ในโครงการอย่างมืออาชีพ รวมทั้งภาวะการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม การเปิดโครงการเมกะบางนา และ IKEA ที่ผ่านมาไม่ได้กระทบต่อผู้ใช้บริการของศูนย์การค้าของ CPN บางนา เพราะมีฐานลูกค้าประจำอยู่แล้ว