นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโสฝ่ายบริหารและการเงิน บมจ.โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า(CENTEL) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายทางธุรกิจในช่วงปี 55-59 รายได้จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% และกำไรสุทธิจะเติบโตสร้างสถิติใหม่ต่อเนื่องได้ทุกปี
"จากนี้ไปปี 55-59 กำไรจะสร้างสถิติใหม่ต่อเนื่องถ้าไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายมากระทบ สิ่งที่กังวลมากที่สุดคือปัญหาการเมือง"นายรณชิต กล่าว
สำหรับปีนี้บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้ารายได้มาที่ 13,800 ล้านบาท จากเป้าเดิม 13,500 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปีก่อน หลังจากเปิดโรงแรมเซนทารา ภูเก็ต จากเข้าไปซื้อกิจการโรงแรมที่หาดกะรน คาดว่าจะสร้างรายได้ราว 300 ล้านบาท/ปี ซึ่งปีนี้จะรับรู้รายได้ 10 เดือน ภาพรวมธุรกิจโรงแรมในปีนี้ยังเติบโตดี โดยรายได้หลักจะมาจากโรงแรมเซนทารา แกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ ทำรายได้ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท/เดือน
ขณะที่ธุรกิจอาหารน่าจะเติบโตได้ 25-27% ทั้งนี้ เบรนด์หลักที่ผลักดันรายได้ คือ เคเอฟซี อาร์นตี้แอนท์ และ ร้านอารญี่ปุ่นโอโตย่า ที่เพิ่งซื้อกิจการมาใหม่ นอกจากนั้น บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อแบรนด์ใหม่ 2 แบรนด์ คาดว่าปีนี้จะสามารถสรุปการเจรจาแบรนด์ร้านอาหารจากต่างประเทศ 1 แบรนด์ตามเป้าหมาย
แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/55 คาดว่ารายได้จะเติบโต 20% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยธุรกิจอาหารกลับมาเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เม.ย.-พ.ค.เติบโตแล้วราว 8-10% เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมและการใช้จ่ายของประชาชนกลับมาดีขึ้นจากไตรมาส 1/55 ที่อยู่ระหว่างฟื้นฟูหลังน้ำท่วม ทำให้ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย
ส่วนธุรกิจโรงแรมแม้ว่าไตรมาส 2 จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่น แต่ในปีนี้อัตราการเข้าพักเฉลี่ยจะอยู่ที่ 67-68% จากปี 54 ที่อัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 64% รวมทั้งราคาห้องพักเฉลี่ยสูงกว่าปีก่อนด้วยจากการเปิดโรงแรมใหม่ สำหรับการเกิดแผ่นดินไหวใน จ.ภูเก็ต ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวไม่มากนัก เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเดินทางท่องเที่ยวกันตามปกติ
นอกจากนี้การเพิ่มขนาดกองทุนอสังหาริมทรัพย์นั้น บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาโรงแรม 2 แห่งให้เข้าร่วมในกองทุน ซึ่งหากสามารถทำได้จะเพิ่มขนาดเกองทุนอีก 2 พันล้านบาท จากปัจจุบันที่ 3.2 พันล้านบาท