บมจ.ศรีไทยซุปเปอร์แวร์(SITHAI) คาดว่าในปีนี้กำไรของบริษัทจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อน หลังอัตรากำไรปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่า 20% จากราว 19% ในปีก่อน รวมทั้งประเมินยอดขายเติบโตขึ้น ประกอบกับ บริษัททยอยปรับขึ้นราคาขายสินค้าประมาณ 5-10% ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายและกำไรในช่วงไตรมาส 2/55 จะสูงขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/55 แต่เชื่อว่าจะเติบโตขึ้นอย่างมากตั้งแต่ไตรมาส 3/55
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ SITHAI เปิดเผยว่า กำไรในปีนี้จะเติบโตก้าวกระโดด จากกำไรสุทธิในปี 54 ที่ 282 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเป็นไม่ต่ำกว่า 20% จากปีก่อนอยู่ที 19% และยอดขายปีนี้ได้เพิ่มขึ้น เป็น 7.8 พันล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 6.69 พันล้านบาท (งบเดี่ยว) และ รายได้ (งบรวม) 7.52 พันล้านบาท โดยปีนี้รายได้มาจากการขายในประเทศ 5,650 ล้านบาท และส่งออก 2,150 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้และกำไรในไตรมาส 3/55 จะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากการที่บริษัทปรับขึ้นราคาสินค้าประเภทเมลามีน 10% และสินค้าพลาสติกอีก 5% ในเดือน พ.ค.-มิ.ย. ขณะที่ไตรมาส 2/55 คาดว่ารายได้และกำไรจะเติบโตไม่มากเมื่อเทียบไตรมาส 1/55 เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดมาก และยังขายสินค้าราคาเดิมแต่ต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ แม้ว่าบริษัทได้มีการแก้ปัญหาด้านค่าแรงทำให้ต้นทุนค่าแรงปรับขึ้นเพียง 15% แต่ราคาพลังงานปรับเพิ่มขึ้นส่งผลทำให้ต้นทุนรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4% อีกทั้งยังได้ชดเชยจากภาษีนิติบุคคลปีนี้ลดลงเหลือ 23% จากปีก่อนเสีย 30%
นายสนั่น กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในปีนี้จะขยายกำลังผลิตโรงงานในประเทศ ส่วนการลงทุนในต่างประเทศนั้น การตั้งโรงงานผลิตขวดและฝาขวดในอินโดนีเซียอยู่ระหว่างรอการเจรจากับลูกค้า
บริษัทมีโครงการลงทุน 300 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตฝาขวดและขวด Preform ในโรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เพื่อขยายกำลังการผลิตอีก 20-25% จากกำลังการผลิตในปัจจุบันที่ผลิตฝาขวด 250 ตัน/เดือน และขวด Preform 1,200 ตัน/เดือน คาดว่าเริ่มการผลิตได้ในเดือน ส.ค.55
พร้อมทั้งอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าเพื่อผลิตฝาขวดและขวดน้ำดื่มในประเทศอินโดนีเซีย คาดว่าได้ข้อสรุปต้นปี 56 จากนั้นจะจึงดำเนินการจัดตั้งโรงงาน เบื้องต้นจะมีกำลังการผลิต 800 ล้านฝา/ปี เริ่มทำการผลิตปี 57 ทั้งนี้โรงงานที่อินโดนีเซียจะรองรับการขยายการส่งออกไปออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฟิลิปปินส์ นอกเหนือจากตลาดในอินโดนีเซีย
อีกทั้งบริษัทได้เข้าลงทุนในโรงงานเวียดนามเพื่อผลิตฝาขวดและขวดในวงเงิน 400 ล้านบาทจะเริ่มทดลองเดินเครื่องผลิตในเดือน มิ.ย.55 และผลิตส่งให้ลูกค้าบริษัทเครื่องดื่มในก.ค.นี้ มีกำลังการผลิตฝาขวด 80 ตัน/เดือน และขวด 1.1 พันตัน/เดือน และโรงงานในเวียดนามจะเป็นฐานการผลิตเมลามีนและพลาสติกแห่งใหม่ หลังจากโรงงานในไทยมีออเดอร์เต็มที่แล้ว โดยจะส่งออกไปยังกัมพูชา และฟิลิปปินส์
ขณะที่โรงงานในอินเดียยังต้องรอผลการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลอินเดียเพื่อลดภาษีนำเข้า นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งโรงงานในพม่าในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเพื่อรองรับการเกิดประชาคมอาเซียน(AEC)
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมมือกับ บมจ. ปตท (PTT) ในการรับผลิตฝาขวดย่อยสลายได้ โดยจะซื้อวัตถุดิบจากกลุ่มปตท. ที่ได้เข้าร่วมทุนกับ Nature Works ซึ่งมีเทคโนโลยีผลิตพลาสติกย่อยสลายได้ ระหว่างนี้อยุ่ในช่วงทดลอง
ทั้งนี้ ในปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุน 900 ล้านบาท ลงทุนซื้อเครื่องจักร 350 ล้านบาท ลงทุนแม่พิมพ์ 200 ล้านบาท และลงทุนอื่นๆ 350 ล้านบาท โดยส่วนหนึ่งเป็นการลงทุนในเวียดนาม 65 ล้านบาท, ลงทุนขยายกำลังการผลิตโรงงานเมลามีนเพื่อส่งออกใน จ.นครราชสีมา 160 ล้านบาท, ลงทุนตั้งโรงงานใหม่ผลิตขวด PET Blow ทำรายได้ 120 ล้านบาทต่อปี ซึ่งกำลังมองหาที่ตั้งโรงงาน โดยคาดว่าจะลงทุนประมาณ 60-65 ล้านบาท
"บริษัทหันมาขยายบรรจุภัณฑ์ในธุรกิจ Food และ Beverage พวกนี้มีมาร์จิ้นดีกว่า ตอนนี้รับออเดอร์ของซีพีทำกล่องใส่อาหาร Readey to Eat เราเข้าธุรกิจ Food ช้า ตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาด 10% ของตลาดรวม"นายสนั่น กล่าว
วันนี้ SITHAI เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ฝาผิดขวดเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดในประเทศไทย และลดการใช้วัตถุดิบได้กว่า 30%และนำไปรีไซเคิลได้ด้วย ทั้งนี้บริษัทผลิตให้กับน้ำดื่มทิพย์ ของบริษัทไทยน้ำทิพย์ จำกัด โดยปัจจุบัน SITHAI ส่งออกฝาขวดรุ่นนี้ไปยัง 8 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชา ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และปาปัวนิวกินี