นายวิชา พูลวรลักษณ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เมเจอร์ ซีนิเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR)กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในไตรมาส 2/55 จะเติบโต 10-15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ ประกอบกับมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่เข้าฉายหลายเรื่อง
รวมทั้งการเปลี่ยนระบบฉายภาพยนตร์จากระบบ 33 มิลลิเมตรเป็นดิจตอลและสามมิติมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้ราคาตั๋วเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าทั้งปีนี้ราคาตั๋วชมภาพยนตร์เฉลี่ยจะเติบโต 10% จากปีก่อนที่ 145 บาท เป็น 155 บาท ปัจจุบันบริษัทมีโรงภาพยนตร์ดิจิตอลและ 3 มิติเพิ่มขึ้นเป็น 170 โรง จากปีที่แล้ว 100 โรง
นอกจากนั้น สาขาใหม่ที่เมกกะบางนา ซึ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมามีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง
"แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ก็น่าจะเติบโตดีเพราะโดยปกติไตรมาส 2-3 เป็นช่วงไฮซีซั่ย มีหนังดีเข้าฉายจำนวนมากแต่อยากขอรอดูเดือน มิ.ย. ก่อนแต่เบื้องต้นคาดว่ารายได้จะ inline กับที่ตั้งไว้โต 10-15%"นายวิชา กล่าว
ทั้งนี้ MAJOR ยังคงเป้าหมายรายได้รวมปี 55 เติบโต 10-15% จากปี 54 ที่มีรายได้ 7 พันล้านบาท