ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวานนี้ โดยนักลงทุนบางส่วนมองว่า หุ้นถูกเทขายมากเกินไปเมื่อพิจารณาจากผลประกอบการของหลายบริษัท ประกอบกระแสคาดการณ์ที่ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแออาจกดดันให้ทางการตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้น
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.3% แตะ 242.58 ณ เวลา 15.40 น.ในลอนดอน โดยดัชนีหลักในตลาดหุ้นยุโรปทั้งหมดปรับตัวเคลื่อนไหวในแดนบวกวันนี้
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน พุ่ง 1.9%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี บวก 0.9% และดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศส ปรับตัวขึ้น 1.6%
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า ช่วงขาขึ้นของหุ้นยุโรปอาจอยู่ได้ไม่นานและจะแผ่วลงในที่สุด เนื่องจากอนาคตของกรีซในยูโรโซนยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย โดยวานนี้ ตลาดหุ้นยุโรปร่วงรุนแรง หลังจากที่มีรายงานว่า อดีตนายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส ของกรีซ ระบุว่า แม้ไม่มีแนวโน้มที่กรีซจะออกจากยูโรโซน แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่
ขณะที่ในวันนี้ มาร์กิต อิโคโนมิกส์ รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมของยูโรโซน ซึ่งครอบคลุมทั้งภาคการผลิตและบริการ หดตัวลงสู่ระดับ 45.9 ในเดือนพ.ค. จาก 46.7 ในเดือนเม.ย. ด้านสถาบัน Ifo ของเยอรมนีเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงอย่างมากในเดือนพ.ค.สู่ระดับ 106.9 จาก 109.9 ในเดือนเม.ย. จากความวิตกที่ยืดเยื้อเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ของยูโรโซน
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนส่วนหนึ่งคาดหวังว่า ธนาคารกลางยุโรปอาจดำเนินการบางอย่างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้น