ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดบวก 33.60 จุดรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 25, 2012 06:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลดลง และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ดีดตัวขึ้นในเดือนเม.ย. อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่ากรีซจะออกจากกลุ่มยูโรโซน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 33.60 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 12,529.75 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.82 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 1,320.68 จุด ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 10.74 จุด หรือ 0.38% แตะที่ระดับ 2,839.38 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 329 ล้านดอลลาร์ หรือ 0.2% สู่ระดับ 2.155 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 3.7% ในเดือนมี.ค. เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดสั่งซื้ออุปกรณ์ด้านการขนส่ง รวมถึงยานยนต์ และเครื่องบินพาณิชย์

ขณะที่ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 19 พ.ค. ลดลง 2,000 ราย มาอยู่ที่ 370,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัว แต่เป็นไปอย่างช้าๆ

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ที่แล้วลดลงจากระดับ 372,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 370,000 รายในรายงานก่อนหน้านี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 370,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 5,500 ราย มาอยู่ที่ 370,000 ราย โดยข้อมูลนี้ถูกมองว่าสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่า เพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของกรีซ แม้ว่ากลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ได้แสดงจุดยืนที่แข็งแกร่งร่วมกันว่า จะสนับสนุนให้กรีซยังคงเป็นสมาชิกกลุ่มยูโรโซน ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้กรีซรักษาคำมั่นสัญญาว่าจะดำเนินมาตรการรัดเข็มขัดและปฏิรูปโครงสร้าง

"เราต้องการให้กรีซยังคงอยู่ในกลุ่มยูโรโซน ในขณะเดียวกันเราก็ต้องการให้กรีซรักษาคำมั่นสัญญา" นายเฮอร์แมน แวน รอมปุย กล่าวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมอย่างไม่เป็นทางการระหว่างรับประทานอาหารเย็นร่วมกับกลุ่มผู้นำอียูที่ดำเนินไปเป็นเวลากว่า 5 ชั่วโมง

หุ้นทิฟฟานีร่วงลง6.81% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาสแรกขยับขึ้นเพียง 0.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ