บล.กรุงศรีอยุธยา วิเคราะห์หุ้น บมจ.จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่(GRAMMY)โดยมองแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้จะชะลอตัวจากการรับรู้ผลขาดทุนในปีแรกของธุรกิจ GMMZ เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรในปี 55 ลดลง 11%YoY เหลือ 555 ล้านบาท แต่เราคาดว่าผลประกอบการจะมีแนวโน้มดีขี้นต่อเนื่องในปีถัดไปจากการเติบโตของธุรกิจดาวเทียมซึ่งคาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนในปีหน้า ในขณะที่หุ้นมีประเด็นเก็งกำไรจากการเข้าร่วมประมูลฟุตบอลพรีเมยร์ลีคที่ตลาดยังไม่ได้นับรวมในประมาณการ
ทั้งนี้ จากการประชุมนักวิเคราะห์กับผู้บริหารเมื่อวานนี้ 24 พ.ค.55 คาดหวังแนวโน้มผลประกอบการในช่วง 1-3 ปีนี้จะเติบโตจากธุรกิจใหม่ คือ ทีวีดาวเทียม(เปิดตัวไปเมื่อเดือน พ.ย.54)โดยตั้งเป้าหมาย ธุรกิจดาวเทียม GMMZ มีผลดำเนินการคุ้มทุนใน 2 ปี คาดรายได้ 2,200 -2,400 ล้านบาทต่อปี จากยอดขายปีละ 1 ล้านกล่องในปี 55-56 ในปี 55
GRAMMY ยังคงตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 20% เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท กลุ่มธุรกิจเพลงและมีเดียคาดเริ่มฟื้นตัวจากปีก่อนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะที่ธุรกิจดาวเทียมคาดว่าจะเติบโตสูง โดยมีรายได้จากการขายกล่อง รายได้จากสมาชิก และการขายโฆษณาซึ่งช่องทางการจัดจำหน่ายกล่อง GMMZ บริษัทได้ร่วมมือกับ 7-11 และกลุ่ม Modern trade ในการจัดจำหน่ายในขณะที่มีแผนจะขายบัตรเติมเงินควบคู่ไปด้วย ซึ่งมีขายเป็นรายวัน รายสัปดาห์ และชุดโปรโมชั่นแพคเกจ 3 เดือน 6 เดือน ตั้งเป้ายอดทำการตลาดไม่เกิน 200 ล้านบาท
นอกจากนี้ รายได้จากช่องกีฬาช่วยขยายฐานสมาชิกมากขึ้น จากการที่บริษัทได้สิทธฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน ล่าสุดได้สิทธิฟุตบอลเจลีค(5 ปี)และมีการร่วมมือเป็นพันธมิตรกับทาง BEC ในการฉายฟุตบอลยูโร นอกจากนี้ในช่วง ก.ย จะเข้าร่วมประมูลแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีคจะใช้เงินลงทุน 600-700 ล้านเหรียญสหรัฐ หากประมูลชนะคาดจะได้ฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัย
ขณะเดียวกันยังเตรียมรุกธุรกิจใหม่ Home Shopping (ขนาดตลาดในประเทศไทยประมาณ 3 พันล้านบาท) โดยจับมือเป็นพันธมิตรกับบริษัท CJC (ซึ่งเป็นบริษัท Home Shopping รายใหญ่สุดของเกาหลีใต้) ตั้งงบลงทุน 5 ปีที่ 540 ล้านบาท เริ่มโฆษณา 8 มิ.ย นี้ คาดรายได้ครึ่งปีแรกประมาณ 150 ล้านบาท
GRAMMY ปิดตลาดวานนี้ที่ 28.00 บาท ราคไม่เปลี่ยนแปลง