นายอูแบร์ วิริออท กรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ไรมอน แลนด์ (RAIMON) เปิดเผยว่า บริษัทมีโครงการทั้งหมด 5 โครงการ มีมูลค่าขายรวมกว่า 3.52 หมื่นล้านบาท มียอดขายแล้วกว่า 2.24 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 แต่ภายใต้มาตรฐานการบัญชีใหม่ บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้สะสมเพียง 4.1 พันล้านบาท ส่งผลให้บริษัทฯ มียอด Backlog กว่า 1.83 หมื่นล้านบาท โดยประมาณร้อยละ 59 ของยอด Backlog ทั้งหมดนี้ มาจากโครงการเดอะริเวอร์ และกว่า 1 ใน 4 มาจากโครงการ 185 ราชดำริ
ทั้งนี้ โครงการเดอะริเวอร์ มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะนี้และมียอดขายแล้วกว่าร้อยละ 76 หรือประมาณ 1.08 หมื่นล้านบาท โดยการก่อสร้างปัจจุบันใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว และคาดว่าจะเริ่มโอนให้ลูกค้าได้ในปลายเดือน มิ.ย. โดยมีแผนที่จะโอนโครงการ ประมาณ 7 พันล้านบาทในปีนี้ และส่วนที่เหลือในปีหน้า
สำหรับโครงการวิว ซึ่งเป็นโครงการศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่มีพื้นที่เช่ากว่า 4,100 ตร.ม. ตั้งอยู่ติดกับโครงการเดอะริเวอร์นั้น ปัจจุบันการก่อสร้างได้เสร็จสมบูรณ์และมีผู้เช่าแล้วกว่าร้อยละ 60 ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการตกแต่งภายในร้านค้า
โครงการ 185 ราชดำริ ซึ่งเป็นโครงการคอนโดระดับพรีเมี่ยมของบริษัทฯ โดยมีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 250,000 ต่อ ตร.ม. ได้มียอดขายแล้วกว่าร้อยละ 55 และคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จและสามารถโอนได้ในปลายปีหน้า โดยขณะนี้ งานตอกเสาเข็มได้เสร็จสมบูรณ์แล้วและปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงงานสร้างหลักหรือ Superstructure
โครงการในพัทยา ซึ่งได้แก่โครงการซายร์ วงศ์อมาตย์ บริษัทฯ สามารถปิดการขายอาคารแรกของโครงการได้เรียบร้อยแล้ว โดย ณ สิ้นเดือนมีนาคม โครงการนอร์ทพ้อยท์ โครงการซายร์ วงศ์อมาตย์ และโครงการยูนิกซ์ เซาท์พัทยามียอดขายแล้วกว่าร้อยละ 88 ร้อยละ 66 และร้อยละ 24 ตามลำดับ ซึ่งโครงการซายร์ วงศ์อมาตย์และโครงการยูนิกซ์ เซาท์พัทยา ที่ทำการเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว จะแล้วเสร็จและสามารถโอนได้ในปี 2557
จากความสำเร็จในการเปิดตัวโครงการในพัทยา รวมทั้งแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ ในปีนี้ จะส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้และกำไรอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2558 เป็นอย่างน้อย โดยในอนาคต บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการต่อปี โดยเงินทุนจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มแก่บุคคลในวงจำกัด (Private placement) จำนวน 457 ล้านบาท การใช้สิทธิ์ของผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) ประกอบกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานจะเพียงพอที่จะรองรับทั้งการเปิดตัวโครงการใหม่และการจ่ายเงินปันผลด้วย
"บริษัทฯ มีกลยุทธ์ในการสร้างความหลากหลายของกลุ่มลูกค้าและผลิตภัณฑ์ โดยจากเดิมที่มุ่งเน้นไปทีกลุ่มลูกค้าระดับสูงเท่านั้น ปัจจุบันบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการที่มุ่งเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางถึงระดับบน ภายใต้แบรนด์ซายร์ ยูนิกซ์ และล็อฟท์ เพื่อขยายฐานลูกค้าชาวไทยเพิ่มขึ่น และเพิ่มโอกาสในการเติบโตในอนาคต" นายอูแบร์ กล่าว