ซีพีแลนด์ ลุยผุด 10 โครงการใหม่ปีนี้ มูลค่า 9.6 พันลบ.รวมนิคมฯ ระยอง

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday May 25, 2012 14:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ซีพีแลนด์ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดแผนปี 55 เปิดโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 9.6 พันล้านบาท โดยโครงการใหญ่เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง บนพื้นที่ 3.3 พันไร่ เน้นลูกค้าจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ขณะเดียวกันเดินหน้าสร้างอาคารสำนักงานให้เช่าและคอนโดมิเนียมใน จ.ขอนแก่น และหลายจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หลังจากเห็นกำลังซื้อและความต้องการสูง

ส่วนแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์คงชะลอไว้ก่อน เพราะจังหวะยังไม่เหมาะ ราคาหุ้นในกลุ่มอสังหาริทรัพย์ถูกไป ภาวะตลาดไม่ค่อยดี รวมทั้งต้องการรอให้ธุรกิจเติบโตทั้งรายได้และสินทรัพย์ที่วางเป้าจะได้เกินกว่า 3 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบัน 1.1 หมื่นล้านบาท โดยวางแผนธุรกิจ 5 ปี(ปี 55-58) รุกตลาดภูมิภาค 8 โซน เน้นอีสานเป็นหลัก ด้วยงบลงทุน 6 พันล้านบาท

นายสุนทร อรุณานนท์ชัย รองประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ซีพีแลนด์ เปิดเผยว่า ในปี 55 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 9,620 ล้านบาท

ได้แก่ โครงการ กัลปพฤกษ์ คอนโดมินียม มี 3 อาคาร และ โครงการกัลปพฤกษ์ พาร์ค คอนโดมิเนียม มี 2 อาคาร ทั้งสองโครงการอยู่ในจ.ขอนแก่น มูลค่าโครงการรวม 620 ล้านบาท เปิดตัวเมื่อต้นปี และสามารถขายได้หมดอย่างรวดเร็ว และยังมีอาคารสำนักงาน ซีพี ทาวเวอร์ ขอนแก่น 2 มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท อยู่ระหว่างก่อสร้าง

พร้อมกันนั้น บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการกัลปพฤกษ์ คอนโดมิเนียม มหาสารคาม มูลค่าโครงการ 370 ล้านบาท มี 4 อาคาร สูง 8 ชั้น จะเปิดตัววันที่ 2 มิ.ย. นี้

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างดำเนินสร้างนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด บนพื้นที่ 3.3 พันไร่ ที่อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ที่อยู่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง มูลค่าโครงการ 6,500 ล้านบาท แบ่งดำเนินการเป็น 3 เฟส แต่ละเฟสใช้เวลา 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี

นายสมเกียรติ เรือนทองดี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซีพีแลนด์ กล่าวเสริมว่า นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้อยู่ในขั้นตอนรออนุญาตรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) และคาดว่าในไตรมาส 4/55 จะเริ่มเปิดขายที่ดินได้และจะพัฒนาแล้วเสร็จในช่วงกลางไตรมาส 2/56 เพื่อเปิดขายอย่างเป็นทางการ

นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้จะพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ เน้นอุตสาหกรรมเบา ได้แก่ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ชิ้นส่วนรถยนต์ โดยเน้นลูกค้าจีน ญี่ปุ่น เกาหลี และต่างชาติที่มีฐานการผลิตในไทยอยู่แล้ว

"ระหว่างนี้เราได้ติดต่อกับนักลงทุนหลายรายแล้ว จะรอให้สร้างเสร็จแล้วค่อยขายก็ไม่ได้ การพัฒนาที่ระยองเป็นนิคมอุตสาหกรรมเพราะเห็นว่าไม่พื้นที่น้ำไม่ท่วม มีจุดคมนาคมที่เข้าถึงง่าย" นายสมเกียรติ กล่าว

นายสมเกียรติ กล่าวอีกว่า บริษัทมีแผนพัฒนาที่ดินพัทยาใต้ ราว 20 ไร่ ซึ่งเป็นที่ดินเดิมของบริษัทอยู่แล้ว หลังจากเกิดน้ำท่วมได้ปรับโครงการเป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์และคอนโดมิเนียม มูลค่าโครงการ 1,030 ล้านบาท โดยคาดว่าจะเปิดขายได้ปลายปีนี้ อีกทั้งมีแผนจะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมในแถบอีสานอีก 3 โครงการ มูลค่าประมาณ 900 ล้านบาท ได้แก่ที่จ.อุดรธานี , จ.นครราชสีมา และ จ.มหาสารคาม คาดปลายปีนี้เปิดขายได้

ทั้งนี้ ซีพีแลนด์ มีแผนธุรกิจ 5 ปี (ปี 55-58)ในการขยายธุรกิจในพื้นที่ภูมิภาคที่บริษัทวางไว้ 8 โซน ใช้เงินลงทุน 6 พันล้านบาท ได้แก่ โซน 1) ขอนแก่น อุดรธานี มหาสารคาม โซน 2) นครราชสีมา บุรีรัมย์ โซน 3) อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ โซน 4) หนองคาย นครพนม มุกดาหาร โซน 5)ภาคหนือตอนบน -เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง โซน 6) ภาคเหนือตอนล่าง-พิษณุโลก นครสวรรค์ โซน 7)ภาคตะวันออก -ชลบุรี พัทยา และ โซน 8)ภาคใต้-สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ภูเก็ต

บริษัทเน้นขยายธุรกิจไปที่อีสาน และต่างจังหวัดในหัวเมือง เพราะห็นศักยภาพ กำลังซื้อ และความต้องการที่พักอาศัยจำนวนมาก โดยบริษัทเน้นลูกค้าระดับกลาง

ในปีนี้บริษัทมีแผนซื้อที่ดินใหม่อย่างน้อย 5 แปลง และมูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท โดยขณะนี้มีโอกาสเข้าซื้อที่ดินในเชียงราย นอกจากนี้ยังมีที่ดินรอการพัฒนาอยู่หลายแปลง ถ้าไม่นับรวมที่ดินที่นำไปทำนิคมอุตสาหกรรม จะมี 700 ไร่ โดยในกทม.มีที่ดินอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วง บริเวณบางใหญ่หลาย 10 ไร่ และ มีนบุรี 60 ไร่

*ชะลอแผนเข้าตลาดหุ้น รอธุรกิจเบ่งบาน

นายสุนทร กล่าวว่า แม้ว่าบริษัทจะมีแผนเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ขณะนี้มองว่ายังไม่เห็นจังหวะ ซึ่งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในตลาดหุ้นมีราคาระดับ P/E ต่ำมาก และต้องการรอให้กิจการธุรกิจมีการขยายมากกว่านี้โดยมองว่ามูลค่าสินทรัพย์ของบริษัทน่าจะเติบโตเป็นมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปี 54 มีมูลค่า 1.1 หมื่นล้านบาท หนี้สิน 3,368 ล้านบาท และส่วนผู้ถือหุ้น 7,782 ล้านบาท มูลค่าทางบัญชี(BV) 2.16 บาทต่อหุ้น และรายได้ปี 54 มีจำนวน 1,500 ล้านบาท กำไรสุทธิ 350 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าสร้างรายได้จากการเช่า และการขาย ในสัดส่วนร้อยละ 50/50 ภายใน 3 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 57 จากปี 54 ที่มีสัดส่วนรายได้จากค่าเช่า 75% และ 25% มาจากการขายโครงการ

"เราเตรียมตัวเป็นบริษัทมหาชนแล้ว แต่อสังหาฯยังไม่ popular ไว้ให้มีสินทรัพย์มากกว่านี้ เราเคยยื่นไฟลิ่งไป แต่เห็นตลาด P/E ต่ำ ถ้าเราขายไปตอนนี้ ผู้ถือหุ้นที่อยู่เรามานาน 20 กว่าปีก็คงไม่ชอบ ...เราอยากขยายตัวให้มากกว่านี้ เพื่อเพิ่มรายได้ สินทรัพย์ เราไม่เร่งเข้าตลาด วันนี้เราไม่เข้าตลาดเราก็ทำตลาดได้ D/E เรายังต่ำอยู่ เราพยายามสร้งแบรนด์เนม " นายสุนทร กล่าว

ซีพีแลนด์ มีทุนจดทะเบียน 3,630 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยมีเครือเจริญโภคภัณฑ์ถือหุ้นใหญ่มากกว่า 60% ส่วนกลุ่มนายสุนทร ถือประมาณ 20% นอกนั้นเป็นกลุ่มเจียรวนนท์และผู้บริหาร

ปัจจุบัน บริษัทมีอาคารสำนักงานให้เช่าในกรุงเทพ 3 แห่ง ได้แก่ อาคารซีพีทาวเวอร์ 1 (สีลม) อาคารซีพี ทาวเวอร์ 2 (ฟอร์จูนทาวน์) และ อาคารซีพีทาวเวอร์ 3 (พญาไท) ซึ่งมีอัตราการเช่าเกือบร้อยละ 100 และยังมีศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียง ฟอร์จูน ซึ่งอยู่ระหว่างปรับปรุงใหม่) ส่วนในต่างจังหวัดมีที่ขอนแก่น 1 แห่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ