นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ไอเอ็นจี(ประเทศไทย)เปิดเผยว่า บริษัท เตรียมเสนอขายกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (5) มีจุดเด่นอยู่ที่การเป็นกองทุนผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารแห่งทุน โดยผู้จัดการกองทุนสามารถปรับลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นได้ตามความเหมาะสมกับสภาพตลาด ทำให้สามารถบริหารการลงทุนได้เป็นอย่างดีในทุกช่วงตลาดการลงทุน
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (5) มีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี และมีแนวโน้มการเติบโตสูง และเน้นการใช้เทคนิคเรื่องการเข้า-ออกตลาดในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนตามเป้าหมาย โดยเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุนสุทธิ (NAV) เพิ่มขึ้นจากราคาเสนอขายครั้งแรกที่ 10 บาท ไปอยู่ที่ 11.00 บาทต่อหน่วย ณ วันใดวันหนึ่ง กองทุนก็จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติทั้งหมด พร้อมเลิกกองทุน (โดยกองทุนจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ภายใน 5 วันทำการ ถัดจากวันที่มูลค่าหน่วยลงทุนอยู่ที่ระดับ 11.00 บาท ณ วันใดวันหนึ่ง โดยจะนำเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนไปลงทุนในกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แคช แมเนจเม้นท์ ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดเงินที่มีสภาพคล่องสูงสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ)
นโยบายลงทุนของกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (5) ยังคงมีเป้าหมายการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเหมือนกับ 4 กองทุนที่ผ่านมา แต่จะเพิ่มความยืดหยุ่นในการเรื่องของสัดส่วนการลงทุนในหุ้นได้ตั้งแต่ 0%-100% เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้จัดการกองทุนมืออาชีพสามารถบริหารจัดการกองทุนได้ตามจังหวะและสภาพของตลาดหุ้นอย่างเหมาะสม ซึ่งเราเชื่อว่า ด้วยความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนดังกล่าว จะช่วยให้กองทุนเข้าถึงผลตอบแทนเป้าหมายที่ 10% ได้ด้วยระยะเวลาที่ไม่นาน
สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนให้ผลตอบแทนของกองทุนดังกล่าว เข้าสู่เป้าหมายได้นั้นมาจากการปรับฐานของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา (Healthy Correction) โดยมาจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลัก สาเหตุจากความวิตกกังวลในประเด็นความวุ่นวายทางการเมืองในกรีซที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับอนาคตของกรีซในฐานะสมาชิกของกลุ่มยูโรโซน จนทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าประเด็นปัญหาอาจลุกลามสู่ประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อีกทั้งการประชุมผู้นำกลุ่มอียูเพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาในประเด็นปัญหาหนี้สาธารณะ รวมถึงกรณีหากกรีซต้องออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มอียูยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน เป็นผลให้เกิด Flight to Safety หรือภาวะการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงไปยังสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง (การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หรือสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ)
นายจุมพล กล่าอวีกว่า ตลาดหุ้นไทยยังมี Valuation ที่ถูกและยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ค่า Forward P/E ของตลาดหุ้นไทยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ 11.1 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ของตลาดหุ้นกลุ่มประเทศในภูมิภาค (Indonesia P/E 13.2 เท่า, Malaysia P/E 14.0 เท่า และ Philippines P/E 16.2 เท่า, ที่มา: GS 18 พฤษภาคม 2555) ประกอบกับสำนักวิจัยหลายแห่งได้ปรับเพิ่มเป้าหมาย SET Index ในปี 2012 ว่า SET Index อาจจะปรับตัวขึ้นสู่ช่วงระดับ 1300-1350 จุด ที่ P/E 13-13.5 เท่า เมื่อเทียบกับ SET Index ณ ปัจจุบันที่ระดับ 1125.78 จุด (ณ 24 พ.ค.2012) จะมี Upside potential อีกประมาณ 15%-20% จึงมองเป็นโอกาสของการลงทุนในตลาดหุ้น
อีกทั้งปัจจุบันระดับราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลงในปัจจุบันมาอยู่ที่ระดับ 89.90 USD/Barrel (Source: Bloomberg, 23 พ.ค. 2012) ช่วยลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อภายในประเทศลงได้ในระดับหนึ่ง คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะได้รับอานิสงส์จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทยตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในช่วงที่เหลือของปี ทั้งนี้มองว่าระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันเป็นอัตราที่เหมาะสมกับการการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ โดยคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยอยู่ที่ระดับ 6% ในปี 2012
สำหรับ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ทริกเกอร์ 10% (5) จะเสนอขายระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคมจนถึง 5 มิถุนายน 2555 โดยกำหนดการจองซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท