นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน (ROBINS) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ายอดขายในไตรมาส 2/55 จะเติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมองว่าตลาดค้าปลีกยังคึกคักต่อเนื่องในไตรมาส 1/55 บริษัทจึงมีแผนงานเพิ่มสินค้าในกล่มแฟชั่นและเครื่องสำอางมากขึ้น รวมทั้งการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสร้างการรับรู้และกระตุ้นความต้องการของลูกค้า
ขณะที่ยอดขายรวมในปี 55 มีโอกาสเติบโต 23% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้โตไม่ต่ำกว่า 20% หลังประเมินว่าทิศทางกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังเติบโตดีต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามการขยายตัวของภาวะเศรษฐกิจ หลังจากมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนเริ่มต้นของผู้จบปริญญาตรี รวมทั้งราคาพืชผลทางการเกษตรเพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ตามแผน 5 ปี (55-59) บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 0.2-0.3% โดยสินค้าไพรเวทแบรนด์ที่มีอัตรากำไร(มาร์จิ้น)สูงจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ของยอดขายรวม จากปัจจุบันอยู่ที่ 8% ภายใน 1-2 ปี และจะมีการเปิดสาขาใหม่ปีละ 5 สาขา ตั้งงบลงทุนประมาณปีละ 2.8 พันล้านบาท และหากรวมกับงบปรับปรุงสาขาเดิมเพิ่มเป็นไม่เกิน 3 พันล้านบาท
ปัจจุบัน บริษัทมีสาขาห้างสรรพสินค้าโรบินสันทั้งหมด 27 สาขา และเตรียมเปิดอีก 3 สาขาในช่วงที่เหลือของปีนี้ และปรับปรุงสาขาเดิมอีก 4 สาขา
ส่วนปี 56 คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการเปิดสาขาใหม่แล้ว 3 สาขา และอยู่ระหว่างเจรจาเรื่องสถานที่อีก 2 สาขา ส่วนสาขารัชดาฯ คาดว่าจะเปิดทำการสิ้นไตรมาส 1/56 เพราะจากการเปิดสาขาพระราม 9 กระทบยอดขายสาขารัชดาฯ 25% นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาต่อสัญญาเช่าสาขาบางรักคาดว่าจะได้รับการต่อสัญญาไปอีก 10 ปีในเร็วๆนี้
นายปรีชา กล่าวถึงแผนการขยายสาขาไปยังต่างประเทศว่า บริษัทยังคงทำการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในแถบอาเซียน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีหน้า
ขณะที่ ในปีนี้บริษัทจะเพิ่มการโรดโชว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีนักลงทุนให้ความสนใจตัวบริษัทมากขึ้น หลังประเมินว่าธุรกิจเกี่ยวข้องการบริโภคในประเทศยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก ปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนสถาบัน 30-35% ใกล้เคียงปีก่อน