น.ส.จินตนา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมิคัลส์ (SGP) กล่าวว่า บริษัทคาดว่ารายได้ในปี 55 จะมีโอกาสเติบโตมากกว่าเป้าที่จะเติบโต 30% หรือทำได้มากกว่า 5 หมื่นล้านบาท ขณะที่กำไรจะทำสถิติสูงสุดใหม่
ทั้งนี้ การประเมินดังกล่าวอยู่ภายใต้คาดการณ์ยอดขาย LPG ปีนี้ที่เกือบ 2.4 ล้านตันหรือเติบโต 31% จากปีก่อนที่มียอดขาย 1.8 ล้านตัน ซึ่งจะเป็นการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศปีนี้คาดจะมียอดขาย 7.5 แสนตัน เป็นยอดขายจากประเทศจีน 2.7 แสนตัน ซึ่งขณะนี้ความต้องการใช้ LPG ในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะจีน
ปัจจุบัน บริษัทเป็นผู้นำเข้าและส่งออกก๊าซอันดับ 1 ของจีน โดยปีนี้บริษัทจะรับรู้รายได้จากคลังเก็บก๊าซที่จีนเข้ามาเต็มปี ทำให้สัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 60% จากปัจจุบัน 50% ขณะที่ปริมาณขายในประเทศปีนี้จะอยู่ที่ราว 1.18 ล้านตัน ซึ่งความต้องการใช้ก๊าซเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากกลุ่มยานยนต์และอาหาร
ในปีนี้บริษัทมีแผนขยายสถานีบริการก๊าซในกทม.และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดรวม 8 แห่ง คาดใช้วงเงินลงทุนแห่งละ 15 ล้านบาทไม่รวมค่าที่ดิน จากปัจจุบันมีสถานีบริการก๊าซทั้งหมด 32-33 สถานี
"ผู้ค้าก๊าซรายใหญ่ทั้งในจีนและประเทศเอเชียตะวันออกต้องการซื้อแก๊สจากเราเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้ค้าเหล่านั้นไม่มีคลังเก็บก๊าซที่ใหญ่เท่าเรา และครั้งนี้บริษัทก็มียุทธศาสตร์ในการขยายตลาดโดยใช้เรือขนแก๊สขนาดใหญ่เป็นคลังลอยน้ำใกล้ประเทศสิงคโปร์เพื่อเจาะตลาดในอาเซียนด้วย...ถ้าเปิด AEC จะได้ประโยชน์มากกว่ารายอื่นๆ เพราะปัจจุบันเราก็มีฐานลูกค้าอยู่ทุกประเทศในอาเซียน ขณะที่ในประเทศเราก็มีการสร้างคลังสินค้าไว้กระจายทั่วประเทศ"น.ส.จินตนา กล่าว
แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 2/55 คาดว่าจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ขณะนี้ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกจะปรับตัวลดลง ซึ่งก็เป็นไปตามฤดูกาลเพราะเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน บริษัทก็เริ่มมีการลดสต็อกลงมาตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก โดยจะซื้อก๊าซเข้ามาเก็บไว้แค่ให้พอกับความต้องการของลูกค้าเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงจากสต็อกที่ต้นทุนสูง โดยไตรมาส 2/55 บริษัทคาดว่าจะมีกำไรจากสต็อกเช่นเดียวกับไตรมาสแรก
นอกจากนั้น ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาเข้าไปซื้อกิจการในประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มเติม
สำหรับหุ้นที่บริษัทซื้อคืน 31 ล้านหุ้น ทางบริษัทมีแผนจะขายให้กับนักลงทุนสถาบัน ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาราคาที่เหมาะสมอยู่ โดยหุ้นดังกล่าวมีต้นทุนอยู่ที่ 8.60-8.70 บาท