ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่า ราคาบ้านในสหรัฐเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถลดแรงกดดันจากข่าวที่ว่าจีนยังไม่มีแผนที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.8% ปิดที่ 244.3 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3084.70 จุด บวก 41.73 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6396.84 จุด บวก 73.65 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5391.14 จุด บวก 34.80 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านในสหรัฐเดือนมี.ค.ปรับตัวขื้นต่อเนื่องจากเดือนก.พ. โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ในเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 0.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งราคาบ้านที่ขยับขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบเป็นรายเดือนแสดงให้เห็นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐกำลังฟื้นตัว
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนเม.ย.แตะ 94.2 หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งการปรับเพิ่มขึ้นของดัชนีดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่การผลิตรถยนต์พุ่งขึ้น 7.6% ในเดือนเม.ย.หลังจากลดลงในเดือนมี.ค.
หุ้น CGGVeritas ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจแหล่งสำรองน้ำมันรายใหญ่ระดับโลก พุ่งขึ้น 5.7% ขณะที่หุ้นอาร์เซลอร์ มิตตาล พุ่งขึ้น 4.1% หลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว
หุ้นบังเกีย ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 ของสเปน ร่วงลง 16% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่าจำเป็นจะต้องของเงินทุนเพิ่มจากรัฐบาลจำนวน 1.9 หมื่นล้านยูโร หรือ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
บังเกีย เป็นธนาคารแห่งหนึ่งที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจากการล่มสลายของภาคอสังหาริมทรัพย์สเปนตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา โดยคาดการณ์ว่าบังเกียมีหนี้เสียประมาณ 3.2 หมื่นล้านยูโร ทั้งนี้ บังเกียได้ถูกแปรรูปเป็นของรัฐไปแล้วเมื่อช่วงต้นเดือน โดยรัฐบาลได้แปลงสภาพหุ้นบุริมสิทธิ 4.5 พันล้านยูโรในบริษัทแม่ของกลุ่มบริษัทบังเกียไปเป็นหุ้นสามัญ
การร่วงลงของหุ้นบังเกียได้ฉุดตัวอื่นๆในกลุ่มธนาคารดิ่งลงด้วย โดยหุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ เอสพานอล ร่วงลง 3.3% หุ้นบังโค เดอ ซาบาเดลล์ เอสเอ ร่วงลง 4.3% และหุ้นบังโค บิลบาว วิสคายา อาร์เจนตาเรีย ร่วงลง 2.6%