นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บมจ.นวนคร(NNCL)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ในไตรมาส 2/55 มั่นใจว่าจะมีผลกำไร เนื่องจากมีลูกค้าหลายรายได้เซ็นสัญญาซื้อที่ดินและโอนที่ดินแล้วอย่างน้อย 60-70 ไร่ ประกอบกับโรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จ.ปทุมธานี ได้เริ่มกลับมาเปิดโรงงานแล้วกว่า 90% แต่การใช้กำลังการผลิตยังไม่เต็มที่
ขณะที่ทั้งปี 55 บริษัทจะมีผลกำไรสุทธิดีกว่าปีก่อน จากยอดขายที่ดินที่คาดว่าจะดีขึ้น เนื่องจากมีลูกค้าแสดงความสนใจซื้อที่ดินจำนวนมาก ส่วนรายได้ค่าสาธารณูปโภค อาจอยู่ระดับเดียวกัน หรือลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนที่มีรายได้ 400 ล้านบาท เนื่องจากโรงงานต่างๆ ยังไม่ได้ใช้กำลังการผลิตเต็มที่ แต่คาดว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติสมบูรณ์ในปี 56
"ตอนนี้ protential ค่อนข้างดี อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ตอนนี้มีลูกค้าหลายรายยังอยู่ที่นี่ มีปิดโรงงานไปแค่ 7 แห่ง จากทั้งหมด 227 แห่ง...พรุ่งนี้ก็จะมีลูกค้าโอนที่ดินอีก 1 ราย เนื้อที่ 20 ไร่ เป็นมูลค่า 120 ล้านบาท" นายนิพิฐ กล่าว
ทั้งนี้ นิคมฯ ใน จ.ปทุมธานี มีลูกค้ารายใหญ่ 1 ราย สนใจซื้อที่ดินกว่า 100 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาคาดว่าจะปิดดีลในปลายปีนี้ ขณะที่นิคมฯ ที่ จ.นครราชสีมา ยอดขายที่ดินดีมาก โดยเฟส 1-2 มีที่ดินกว่า 1,300-1,400 ไร่ที่ลูกค้าจองซื้อเต็มหมดแล้ว ส่วนเฟส 3 มีพื้นที่ 2,000 ไร่ และบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาเพื่อขยายพื้นที่ส่วนนี้เพิ่มอีก 800 ไร่ โดยขณะนี้ลูกค้าให้ความสนใจจองซื้อแล้วประมาณ 500-600 ไร่
สำหรับการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วม ขณะนี้มีการก่อสร้างคืบหน้าแล้วระยะทาง 7 กม.จากทั้งหมด 20 กม. คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จได้ตามแผนในช่วงปลายเดือน ส.ค.55 โดยบริษัทจะมีการทดสอบระบบย่อยในช่วงเดือน มิ.ย. และจะมีการทดสอบใหญ่อีกครั้งในเดือน ก.ค.เนื่องจากขณะนี้มีลูกค้าหลายรายแสดงความสนใจซื้อที่ดิน แต่ขอความมั่นใจในการวางระบบป้องกันน้ำท่วม เพื่อให้บริษัทแม่ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นเป็นผู้ตัดสินใจอีกครั้ง ดังนั้น คาดว่ายอดขายที่ดินของบริษัทจะมีความชัดเจนมากขึ้น หลังเดือน ส.ค.ที่เขื่อนป้องกันน้ำท่วมแล้วเสร็จ