TOP มองราคาน้ำมันดีดขึ้นปลายปีจากศก.เอเชียแกร่ง, บอลยูโร-โอลิมปิคหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 30, 2012 12:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.ภัทรดา สง่าแสง ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บมจ.ไทยออยล์(TOP) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงปลายปี 55 น่าจะกลับมาเคลื่อนไหวที่ระดับ 110-120 เหรียญ/บาร์เรล หลังความต้องการใช้ยังมีอยู่สูง โดยเฉพาะจากประเทศในเอเชียที่เศรษฐกิจยังมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สถานการณ์ในยุโรปก็น่าจะมีความชัดเจนมากขึ้น

ส่วนต่างราคาขายผลิตภัณฑ์(สเปรด)ของน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันเตาคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/55 ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปี โดยสเปรดของน้ำมันเครื่องบินในไตรมาส 2/55 จะปรับตัวสูงขึ้นเป็น 16 เหรียญ/บาร์เรล จากไตรมาส 1/55 อยู่ที่ 15.6 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจากเป็นช่วงใกล้จะมีการแข่งขันฟุตบอลยูโรและกีฬาโอลิมปิค

ขณะที่สเปรดของน้ำมันเตาคาดว่าจะเพิ่มเป็น 15.6 เหรียญ/บาร์เรล จากไตรมาส 1/55 อยู่ที่ 16.4 เหรียญ/บาร์เรล ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลประกอบกับมีความต้องการใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น

แต่สเปรดของแอลพีจีและเบนซิน 95 น่าจะอ่อนตัวลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าราคาแอลพีจีในช่วงไตรมาส 2/55 จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 992 เหรียญ/ตัน จาก 1,035 เหรียญ/ตันในไตรมาส 1/55 ส่วนสเปรดเบนซิน 95 น่าจะอยู่ที่ 17.3 เหรียญ/บาร์เรล จากไตรมาก่อนที่ 14.3 เหรียญ/บาร์เรล หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวทำให้การเดินทางในหลายๆประเทศลดลง

สำหรับแนวโน้มสเปรดของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอะโรเมติกส์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ น.ส.ภัทรดา คาดว่าจะปรับตัวลงเล็กน้อยจากช่วงไตรมาส 1/55 แต่ถือว่ายังทรงตัวอยู่ในระดับค่อนข้างสูง โดยคาดว่าสเปรดพาราไซลีนจะลดลงเหลือ 422 เหรียญ/บาร์เรลในไตรมาส 2/55 จากไตรมาส 1/55 อยู่ที่ 505 เหรียญ/บาร์เรล ส่วนสเปรดของเบนซีนจะลดลงเหลือ 49 เหรียญ/บาร์เรล จาก 72 เหรียญ/บาร์เรลในไตรมาส 1/55

“ปีนี้และปีหน้าน่าจะเป็นปีทองของพาราไซลีนหลัง demand ยังมีอยู่สูงโดยเฉาพาะจากในจีน ปี 57 อาจจะลดลง และกลับมาเพิ่มอีกครั้งในปี 58"น.ส.ภัทรดา กล่าว

สำหรับแผนการลงทุน 5 ปี(55-59) ภายใต้งบประมาณ 1.7 พันล้านเหรียญ ซึ่งได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการส่งเสริมการลงทุนประมาณ 300 ล้านเหรียญ ทำให้ต้องใช้เม็ดเงินลงทุนราว 1.4 พันล้านเหรียญ ขณะนี้มีโครงการที่ได้รับอนุมัติแล้วคิดเป็นมูลค่ารวม 989 ล้านเหรียญ อาทิ โครงการสร้างโรงไฟฟ้า SPP จำนวน 2 โรง ขนาดกำลังการผลิตแห่งละ 110 เมกะวัตต์ มุลค่ากว่า 334 ล้านเหรียญ และ โครงการขยายกำลังการผลิตพาราไซลีนอีก 1 แสนบาร์เรล เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและศึกษาความเป็นไปได้คิดเป็นมูลค่ากว่า 856 ล้านเหรียญ เช่น โครงการปรับปรุงโรงกลั่นเพื่อลดกำลังการผลิตน้ำมันเตาเหลือ 2-3% จากปัจจุบันที่ 10%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ