ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกปัญหาหนี้ยุโรป ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 160.83 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 31, 2012 06:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากอิตาลีไม่สามารถขายตราสารหนี้ได้ตามเป้าหมายสูงสุด และความกังวลเกี่ยวกับปัญหาในภาคธนาคารของสเปน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 160.83 จุด หรือ 1.28% ปิดที่ 12,419.86 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวลง 19.10 จุด หรือ 1.43% ปิดที่ 1,313.32 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลง 33.63 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 2,837.36 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากอิตาลีระดมทุนจากการประมูลขายพันธบัตรอายุ 5 และ 10 ปี ได้ 5.732 พันล้านยูโร ขณะที่อัตราผลตอบแทนสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับการประมูลในเดือนที่แล้ว โดยอิตาลีตั้งเป้าสำหรับการประมูลพันธบัตรครั้งนี้ไว้ในช่วง 4.50-6.25 พันล้านยูโร

ทั้งนี้ อิตาลีขายพันธบัตรที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนมิ.ย.2560 ได้ 3.391 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 5.66% เพิ่มขึ้นจากระดับ 4.86% ในการประมูลเมื่อเดือนเม.ย. และถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ความต้องการซื้อสูงกว่าจำนวนที่นำออกประมูลอยู่ 1.35 เท่า

ขณะเดียวกัน อิตาลีขายตั๋วเงินคลังที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ย.2565 ได้ 2.341 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 6.03% เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.84% ในการประมูลเดือนก่อน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. ขณะที่ความต้องการซื้อสูงกว่าจำนวนที่นำออกประมูลอยู่ 1.40 เท่า ลดลงจากระดับ 1.48 เท่าในการประมูลครั้งที่แล้ว

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ปฏิเสธแผนการที่จะเพิ่มทุนแก่ธนาคารบังเกีย ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่อันดับ 4 ของสเปน ซึ่งจุดปะทุความวิตกว่าสเปนจะเป็นประเทศต่อไปในยูโรโซนที่จะก่อวิกฤตหนี้

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ในเดือนเม.ย.ลดลง 5.5% สู่ระดับ 95.5 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่เดือนธ.ค.2554 การปรับตัวลงดังกล่าวได้ส่งผลกระทบต่อความหวังของนักลงทุนที่ว่าตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐกำลังมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นหลังจากเผชิญภาวะถดถอยมาหลายปี

หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ กลุ่มการเงิน และกลุ่มอุตสาหกรรม ร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 3.2% หุ้นอัลโค อิงค์ ดิ่งลง 3.5% หุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ร่วงลง 2.5%

หุ้นรีเสิร์ช อิน โมชั่น (RIM) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบล็คเบอร์รี ร่วงลง 7.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาสแรกปีนี้ และได้จ้างเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และอาร์บีซี แคปิตอล มาร์เก็ตส์ เพื่อให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์ ซึ่งรวมถึงการให้ใบอนุญาตซอฟแวร์ และการพิจารณาทางเลือกใหม่ทางธุรกิจ

ข้อมูลจาก IDC ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกของ RIM ร่วงลงกว่าครึ่งหนึ่ง มาอยู่ที่ 6.4% ในไตรมาสแรกปีนี้ ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของแอนดรอยด์พุ่งขึ้นแตะ 59% และส่วนแบ่งตลาดของระบบปฏิบัติการ iOS ของแอปเปิล อยู่ที่ 23%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ