ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 พ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ปรับตัวสูงขึ้น และดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจที่ชะลอตัวลงในเดือนพ.ค.
ดัชนี Stoxx 600 Index ปรับตัวลง 0.5% แตะที่ 239.29 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 6,264.38 จุด ลดลง 16.42 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,017.01 จุด เพิ่มขึ้น 1.43 จุด ดัชนี FTSE ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,320.86 จุด เพิ่มขึ้น 23.58 จุด
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 พ.ค. เพิ่มขึ้น 10,000 ราย มาอยู่ที่ 383,000 ราย จากระดับ 373,000 ในสัปดาห์ก่อนหน้า ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ เพิ่มขึ้น 3,750 ราย มาอยู่ที่ 374,500 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังอ่อนแรงลง
ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงขยายตัว 1.9% ในไตรมาสแรกของปี 2555 ซึ่งเป็นการปรับทบทวนลงจากตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ที่ 2.2% โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการบริโภคส่วนบุคคลที่อ่อนแอกว่าที่ประเมินไว้ และการนำเข้าที่แข็งแกร่งกว่าคาด
นอกจากนี้ กิจกรรมทางธุรกิจของสหรัฐของขยายตัวช้าลง โดยสำนักงานจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า กิจกรรมทางธุรกิจในเขตชิคาโกหดตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 52.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2552
หุ้นเอบีบี ดิ่งลง 2.9% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการ อันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่หดตัวลงในจีนและอิตาลี
อย่างไรก็ตาม หุ้นลอจิกา ทะยานขึ้น 66% หุ้นอินเตอร์คอนติเนนตัล โฮลเทล กรุ๊ป ดีดตัวขึ้น 6.1%