PTTGC บวกสวนตลาด แนวโน้มกำไร Q2/55 ฟื้น, ซื้อ Perstorp หนุนโตระยะยาว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 5, 2012 10:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น PTTGC ราคาขยับขึ้น 0.47% มาอยู่ที่ 53.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 217.53 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. โดยเปิดตลาดที่ 54.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 54.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 53.25 บาท

ขณะที่ดัชนี SET อยู่ที่ 1,112.68 จุด ลดลง 2.51 จุด(-0.23%)

บล.เกียรตินาคิน ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)จากแผนการขยายการลงทุน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ โดยบริษัทวางแผนใช้เงินลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้าไว้มากถึง 4,500 ล้านเหรียญ (มาจากเงินสดภายในกิจการ 2,500 ล้านเหรียญ) ราคาหุ้นปรับตัวลดลงกว่า 27% ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา มาจากภาพรวมการลงทุนของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ยังมีปัจจัยลบจากเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแอ แต่เชื่อว่า กำไรจากการดำเนินงานยังมีแนวโน้มฟื้นตัว หลังต้นทุนการผลิตปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ จะยังทำให้ PTTGC มีความน่าสนใจในการลงทุน พร้อมให้ราคาเป้าหมายเดิมที่ 70 บาท

นอกจากนี้ คงมุมมองเชิงบวกต่อการเข้าซื้อกิจการ perstorp โดยการลงทุนใน Perstorp ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายธุรกิจไปสู่ Specialty Product แม้ปัจจุบันการลงทุนจะยังไม่สามารถต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีอยู่ เนื่องจากโรงงานตั้งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส แต่อนาคตมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิตในภูมิภาค ถือเป็นโอกาสที่ดีในการขยายช่องทางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต้นน้ำได้โดยตรง ทางอ้อมการลงทุนในครั้งนี้บริษัทจะได้เทคโนโลยีการผลิตใหม่ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ต้นน้ำของบริษัท

กำไรจากการดำเนินงาน 2Q55 ฟื้นตัว แต่ราคาน้ำมันดิบที่ลดลงจะทำให้ PTTGC มี Stock Loss จำนวนมาก คงมุมมองเดิมต่อกำไรสุทธิ 2Q55 เชื่อกำไรสุทธิอ่อนตัว qoq ชัดเจน จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลง เชื่อว่าจะทำให้หน่วยธุรกิจโรงกลั่นของ PTTGC มีผล Stock Loss จำนวนมาก อย่างไรก็ตามกำไรปกติคาดว่า ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง qoq หลังค่าการกลั่นและส่วนต่างราคาปิโตรเคมีในผลิตภัณฑ์สำคัญของบริษัท ในสัปดาห์แรกของเดือน มิ.ย. 55 เริ่มฟื้นตัวตามคาด โดยปัจจุบันค่าการกลั่นเฉลี่ย (จากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นในประเทศ) ในเดือน มิ.ย. 55 อยู่ที่ 4.1 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 5%mom และทำให้ค่าการกลั่น 2Q55 (Qtd) อยู่ที่ 4.01 เหรียญต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.7%qoq ขณะที่ Spread Margin ในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักอย่าง HDPE และ LDPE ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 455 เหรียญต่อตัน (เพิ่ม 26%qoq) และ 351 เหรียญต่อตัน (เพิ่ม 47%qoq) เป็นปัจจัยหนุนกำไรจากการดำเนินงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ