นายมาร์ค จอห์น อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) กล่าวว่า สินเชื่อในช่วงไตรมาส 2/55 ยังขยายตัวได้ดีต่อเนื่องจากไตรมาส 1/55 แต่ขณะนี้ธนาคารยังจะคงเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อในปีนี้ไว้ตามเดิมที่ 11% แต่อาจจะมีการทบทวนอีกครั้งหลังจากเห็นภาพรวมของสินเชื่อในไตรมาสนี้ ก่อนที่จะมีการแถลงทิศทางและเป้าหมายทางธุรกิจของ BAY ในช่วงไตรมาส 3/55
ปัจจุบัน สัดส่วนสินเชื่อรายใหญ๋และรายย่อยของธนาคารอยู่ในระดับที่ใกล้คียงกันที่ 50:50 ถือเป็นสัดส่วนที่เหมาะสม ซึ่งธนาคารจะรักษาสัดส่วนดังกล่าวต่อไป เพราะตามนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่เน้นการบริโภคจะสอดคล้องกับนโยบายของธนาคารที่จะเน้นการขยายสินเชื่อรายย่อย
ขณะนี้ธนาคารตั้งเป้าหมายเบื้องต้นในไตรมาส 2/55 ที่จะก้าวขึ้นสู่อันดับ 1 ใน 3 ธนาคารพาณิชย์ไทยที่มี ROE สูงสุด จากช่วงไตรมาส 1/55 ธนาคารมี ROE ในระดับ 14% ส่วนขนาดของสินทรัพย์คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1 ล้านล้านบาท จากไตรมาส 1/55 อยู่ที่ประมาณ 9 แสนล้านบาท ขณะสาขาธนาคารจะเปิดครบ 600 สาขา ตู้เอทีเอ็ม 4100 เครื่อง เครื่องอีดีซี 16,000 เครื่อง
นอกจากนั้น ธนาคารยังเปิดกว้างการซื้อกิจการ แต่ขณะนี้ยังไม่เห็นโอกาสที่เหมาะสม จึงยังไม่มีเป้าหมายที่ซื้อกิจการใหม่ตอนนี้ แต่จะเน้นการขยายทั้งภายในภายนอก
นายอาโนลด์ คาดว่าอัตราดอกเบี้นโยบายในปีนี้หากจะมีการขึ้นก็น่าจะได้เห็นในช่วงปลายปีนี้ในอัตราราว 0.25% โดยปัจจัยสำคัญคืออัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวจากผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนปัญหาวิกฤติหนี้ในยุโรปไม่ได้ส่งผลกระทบกับธนาคารโดยตรง เพราะไม่ได้มีการลงทุนในสถาบันการเงินของประเทศที่เกิดปัญหา ขณะที่ธนาคารก็ได้เสริมความมั่นคงแข็งแกร่งมาโดยตลอด
ส่วนผลกระทบต่อลูกค้านั้น ขณะนี้เชื่อว่าลูกค้ากลุ่มผู้ส่งออกยังสามารถดูแลตัวเองได้ดี เพราะส่วนใหญ่มีฐานะเข้มแข็งอยู่แล้ว แต่ธนาคารก็จะเข้าไปตรวจสอบลูกค้า และพร้อมจะให้ความช่วยเหลือหากได้รับผลกระทบ ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังมีความแข็งแกร่ง รายได้ดี ค่าใช้จ่ายเอกชนดีจากแรงสนับสนุนของภาครัฐ