CPF คงเป้ารายได้ปีนี้กว่า 3 แสนลบ.,เล็งลงทุนด้านสวล.500-1 พันลบ.ใน 3ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 5, 2012 14:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF) เปิดเผยว่า บริษัทคงเป้าหมายรายได้ปี 55 ไว้มากกว่า 3 แสนล้านบาท โดยแนวโน้มราคาไก่,หมู และไข่ไก่ในไตรมาส 2/55 เริ่มปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 1/55 แม้ว่าต้นทุนจะปรับขึ้น 5-10% ส่วนราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น

แนวโน้มในครึ่งปีหลังคาดว่าราคาขายสินค้าจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากเป็นไปตามวงจรของสินค้าเกษตร และเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศทำอาชีพเกษตรกร

"ราคาเนื้อไก่ ราคาเนื้อหมู ไข่ไก่ ไม่ได้แพงกว่าปีที่แล้ว ถ้าหากรัฐบาลทำเศรษฐได้ตามเป้า เชื่อว่า ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 เศรษฐกิจจะโตมากขึ้น กำลังซื้อก็เพิ่มมากขึ้น"นายอดิเรก กล่าว

ขณะที่ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป นายอดิเรก กล่าวว่า แทบจะไม่มีผลกระทบต่อตัวบริษัท เนื่องจากบริษัทมียอดส่งออกไปต่างประเทศ 8-9% ของยอดขายรวม 3 แสนกว่าล้านบาท หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยเป็นยอดขายในยุโรปเพียง 5-6 พันล้านบาทเท่านั้น

สำหรับดีลซื้อกิจการในต่างประเทศ นายอดิเรก กล่าวว่า ยังอยู่ในกระบวนการเจรจา คาดว่าในครึ่งปีหลังน่าจะสำเร็จได้ 1 ดีล

ในวันนี้ บริษัทได้กำหนดเป้าหมายให้ธุรกิจของ CPF ก้าวสู่การเป็น "ธุรกิจสีเขียว" (Green Business) โดยมีธุรกิจฟาร์มเลี้ยงสัตว์ (Farm) เป็นธุรกิจต้นแบบนำร่อง และขยายไปสู่ธุรกิจอาหารสัตว์ (Feed) และธุรกิจอาหาร (Food) ตลอดทั้งวงจรการผลิต ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพื่อตอบสนองพฤกติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันที่ตื่นตัวในวิกฤติการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมของโลก ทั้งนี้ ภายใต้วิสัยทัศน์การเป็นครัวของโลก

นายอดิเรกกล่าวว่า ในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะลงทุนเพิ่มอีก 500-1,000 ล้านบาท ใช้ลงทุนด้านสิ่งแวดล้อมต่อเนื่องไปอีก โดยที่ผ่านมา บริษัทใด้ใช้เงินลงทุนประมาณ 3 พันล้านบาทลงทุนด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมในโครงการหลัก ได้แก่ ระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าและความร้อนร่วม (Cogeneration) โครงการผลิตแก๊สชีวภาพ (Biogas)

รวมถึงมาตรฐานสากลต่างๆ เช่น การแสดงฉลากคาร์บอนของผลิตภัณฑ์ เพื่อแสดงปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซเรือนกระจก อื่นๆ ตลอดจนวัฏจักรผลิตภัณฑ์และบริการ ส่งผลให้ CPF เป็นผู้ผลิตไก่ครบวงจรรายแรกของโลกที่ได้รับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ โดยขณะนี้บริษัทได้รับฉลากคาร์บอนนฟุตพริ้นท์แล้วกว่า 111 รายการ และอยู่ระหว่างดำเนินการ 15 รายการ

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินโครงการผลิตภัณฑ์ซีพีเอฟที่ยั่งยืน โดยเริ่มต้นจากมาตรฐานสินค้าคุณภาพ อาหารปลอดภัย และ มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ซีพีของซีพีเอฟ เป็นที่จดจำระดับโลกอย่างยั่งยืน

"การทำธุรกิจสุดท้ายต้องอยู่อย่างยั่งยืน ธุรกิจสีเขียว สะท้อนเราใส่ใจสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ซีพี ได้รับความเชื่อถือมาตลอด อย่างไก่เนื้อที่เรายังส่งออกไปที่ยุโรป ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่เข้มงวดมาตรฐาน" นายอดิเรก กล่าว

และล่าสุด บริษัทได้ขยายการดำเนินโครงการมาตรฐานฟาร์มสีเขียว ซีพีเอฟที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล โดยมีการมอบประกาศนียบัตรรับรองแก่ฟาร์มที่ปฏิบัติสอดคล้องตามข้อกำหนดมาตรฐานฟาร์มสีเขียว 20 แห่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ