นายสุพัฒน์ กรชาลกุล กรรมการบริหาร ผู้บริหารสายงานกลุ่มการเงิน บมจ.ล็อกซเล่ย์(LOXLEY)เปิดเผยว่า ในปี 55 บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 1.6 หมื่นล้านบาท เติบโต 13% จากปี 54 ที่มีรายได้ 1.4 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ของบริษัทจะมาจาก 4 งานหลัก คือ งานโครงการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีทีโปรเจ็คต์) ธุรกิจเทรดดิ้ง ธุรกิจบริการ และธุรกิจร่วมทุน
บริษัทคาดว่าปีนี้จะมีกำไรสุทธิเติบโตมากกว่า 10% จากปีก่อนทีมีกำไรสุทธิ 298 ล้านบาท โดยมาจากรายได้ที่เติบโตขึ้น รวมถึงกำไรจากธุรกิจร่วมทุนที่เข้ามามากขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่ารายได้จากธุรกิจร่วมทุนจะเติบโต 30-50% ในขณะที่รายได้จากไอซีทีโปรเจ็คต์จะเติบโต 15-20% ส่วนธุรกิจเทรดดิ้งจะเติบโต 8-10%
ทั้งนี้ บริษัทประเมินว่าอัตรากำไรสุทธิปีนี้จะอยู่ 3-4% ลดลงจากไตรมาส 1/55 ที่อยู่ในระดับ 5% เนื่องจากธุรกิจเทรดดิ้งมีมาร์จิ้นลดลง 2-3% จากการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น และต้นทุนการจัดส่งสินค้าสูงขึ้น ทำให้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์ในธุรกิจดังกล่าว โดยอาจมีการนำเข้าจากต่างประเทศ และพัฒนาสินค้าในกลุ่มเคมีภัณฑ์ทำความสะอาด สำหรับอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้คาดว่าอยู่ที่ 14-15%
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/55 คาดว่ารายได้จะอยู่ที่ 4 พันล้านบาท เติบโต 10% จากไตรมาส 1/55
นายสุพัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ(backlog)มูลค่าประมาณ 8,400 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ และยังเตรียมเข้าประมูลงานใหม่มูลค่าราว 2 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะงานวางระบบ 3G เฟส 2 ของ บมจ.ทีโอที มูลค่างานราว 7 พันล้านบาท งานวางระบบสายส่งไฟฟ้าโครงการไซยะบุรี และงานบรอดแบนด์ไฟเบอร์ออพติก ซึ่งมั่นใจว่าจะได้งานทั้งหมด
ส่วนความคืบหน้าการขายสลากด้วยเครื่องขายสลากอัตโนมัติ (หวยออนไลน์) นายสุพัฒน์ กล่าวว่า บริษัทได้ติดตามและทำงานร่วมกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลอย่างใกล้ชิด โดยเตรียมความพร้อมให้ดำเนินการได้ทันทีหากนโยบายรัฐบาลมีความชัดเจน โดยจะสามารถจำหน่ายหวนออนไลน์ได้ทันทีภายใน 90 วัน เนื่องจากบริษัทได้มีการบำรุงรักษาและดูแลระบบซอฟท์แวร์มายตลอด 3-4 ปีที่ผ่านมา ขณะที่เงินลงทุนในโครงการหวยออนไลน์วงเงิน 684 ล้านบาท บริษัทได้ตั้งสำรองในส่วนนี้ไว้หมดแล้ว