ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปรับฐานขึ้นหลังจากที่ตลาดร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการ ภายหลังจากที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 26.49 จุด หรือ 0.22% ปิดที่ 12,127.95 จุด ดัชนี S&P 500 ดีดตัวขึ้น 7.32 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 1,285.50 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 18.10 จุด หรือ 0.66% ปิดที่ 2,778.11 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นหลังจาก ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.7 จากระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค.จะอยู่ที่ 53.5 จุด โดยระดับที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการมีการขยายตัว
รายงานของ ISM ระบุว่า ยอดสั่งซื้อใหม่ในภาคบริการปรับขึ้นแตะ 55.5 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 53.5 ในเดือนเม.ย. และดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจ/การผลิต ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 55.6 จาก 54.6 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนีย่อยโดยทั่วไปของ ISM มีการปรับตัวดีขึ้น ยกเว้นดัชนีการจ้างงาน ซึ่งอ่อนแรงลงอย่างมากแตะ 50.8 ในเดือนพ.ค. จากระดับ 54.2 ในเดือนเม.ย.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนเพิ่มขึ้นหลังจากที่ประชุม G-7 เห็นชอบที่จะร่วมมือกันในการคลี่คลายสถานการณ์ที่สร้างความวิตกกังวลในตลาดการเงินเกี่ยวกับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรป โดยรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G-7 ได้จัดการประชุมฉุกเฉินเมื่อวานนี้ ก่อนที่จะจัดการประชุมสุดยอด G-20 อย่างเป็นทางการในวันที่ 18-19 มิ.ย.ที่เมืองลอส คาบอส ประเทศเม็กซิโก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แม้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ แต่นักลงทุนยังคงมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยการรายงานประเมินภาวะเศรษฐกิจ และการประชุมเฟดในวันที่ 19-20 มิ.ย.นี้ โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดอาจจะประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 หรือ QE3
สเตเฟน กุยโฟยิล นักเศรษฐศาสตร์จากเมอร์ริเดียน อิควิตี้ พาร์ทเนอร์สกล่าวว่า นักลงทุนจับตาดูรายงาน Beige Book ซึ่งเป็นรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐในช่วงค่ำวันพุธตามเวลาไทย พร้อมกับกับจับตาดูว่าธนาคารกลางหลายแห่งจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมติที่ประชุม G-7 หรือไม่
หุ้นกลุ่มการเงินดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.9%
หุ้นฮิวเล็ต-แพคการ์ด พุ่งขึ้นกว่า 2% ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊กร่วงลง 3.8%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสำหรับประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 1/2555 และจะเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book
วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนเม.ย. และข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย.