นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและผู้จัดการทั่วไป บมจ.เออาร์ไอพี(ARIP) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทมีแผนจะเข้าถือหุ้นเพิ่มในบริษัท สแพลช อินเตอร์แอ็คทีฟ จำกัด เป็น 100% จากปัจจุบันที่ถือหุ้นอยู่ 40% โดยตามแผนคาดว่าจะสรุปได้ปลายไตรมาส 3/55 หรือต้นไตรมาส 4/55 นี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งช่วงที่ผ่านมาสแพลชฯ ก็ทำตัวเลขผลการดำเนินงานที่อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี น่าจะเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
"เราคุยกับเขาไว้ว่าตอนนี้ถือ 40% ก่อนและพิจารณาผลการดำเนินงาน ถ้าตามเงื่อนไขเดิมน่าจะช่วงปลายไตรมาส 3 ต้นไตรมาส 4 โดยคาดว่าจะถือหุ้นเพิ่มเป็น 100% เลย ตอนนี้อยู่ระหว่างพิจารณาจำนวนเงิน ซึ่งไตรมาส 1/55 กำไรของสแพลชฯ ดีขึ้นเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมโฆษณาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ตอนนี้ยังอยู่ตามเงื่อนไขที่จะมีการพิจารณาผลการดำเนินงาน และแผนที่จะมีการขยายธุรกิจร่วมกัน ก็มีประชุมกันต่อเนื่องมาเรื่อยๆ"นายปฐม กล่าว
ทั้งนี้ การเข้าถือหุ้นเพิ่มในสแพลชฯ ช่วยให้บริษัทไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ในการผลิตรายการทีวี เพราะมีฐานที่ดีอยู่แล้ว จากทีวี 1 รายการหากจะเพิ่มเป็น 3-4 รายการก็ทำได้ง่าย โดยปัจจุบันสแพลชฯ มีรายการทีวี 2 รายการ เป็นรายการด้านไอทีและครอบครัว ซึ่งมีการตอบรับจากผู้ชมค่อนข้างดี
"สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็นเท่าไรนั้นอยู่ระหว่างทำแผน ร่างมาสเตอร์แพลนจะเพิ่มรายการทีวีเป็นเท่าไร ตอนนี้ความเป็นสื่อจำเป็นต้องครบวงจรทั้งออนไลน์และทีวี ซึ่งเป็นองค์ประกอบหลัก"นายปฐม กล่าว
อนึ่ง บริษัท สแพลช อินเตอร์แอ็คทีฟ จำกัด ประกอบกิจการรับผลิตรายการโทรทัศน์ รายการวิทยุ รายการเคเบิ้ลทีวี ปัจจุบันเป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์และออกอากาศรายการทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 จำนวน 2 รายการ คือ รายการทางด้านไอที Cyber City และ รายการ Lighthouse Family ไลฟ์สไตล์สำหรับคนยุคใหม่
นายปฐม กล่าวว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/55 และครึ่งปีหลังเชื่อว่าจะดีตามแผนงานที่วางไว้ เพราะตลาดไอทีเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ และมีสินค้าใหม่ๆ ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องใช้โฆษณาประชาสัมพันธ์และการจัดงานอีเวนท์เพื่อแนะนำสินค้าต่อผู้บริโภค
จากนี้ไปบริษัทมีงานใหญ่ที่เล็งไว้อย่างน้อย 3 งาน ทั้งงานภาครัฐที่จะเข้าร่วมประมูล และงานคอมมาร์ตซึ่งเป็นงานอีเวนท์ของบริษัทเอง โดยบริษัทคาดว่าจะเข้ายื่นประมูลงานภาครัฐไม่เกินเดือน ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นงานขนาดใหญ่พอสมควร และน่าจะรู้ผลภายในเดือนก.ค.และรับรู้รายได้ภายในปีนี้
นายปฐม กล่าวว่า บริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมปีนี้จะเติบโต 20-25% จากปีก่อน เพราะแนวโน้มครึ่งปีแรกก็ไม่น่าจะพลาดจากเป้า ส่วนกำไรสุทธิอัตราเติบโตอาจจะไม่เท่ารายได้ แต่ไม่น่าหลุดไปจากช่วง 10-15% เพราะปีนี้บริษัทใช้งบฯลงทุนค่อนข้างมากราว 20-25 ล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจออนไลน์ 10-15 ล้านบาท และรายการทีวีที่จะต้องขยายเพิ่มเติม
สำหรับราคาหุ้น ARIP ที่ปรับขึ้นร้อนแรงก่อนหน้านี้ นายปฐม มองว่า เป็นสิ่งดีไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เพราะในอดีตราคาหุ้น ARIP เคยสูงกว่านี้ ซึ่งหากเป็นไปตามกลไกปกติของตลาดก็ไม่น่ากังวล แต่ในส่วนของผู้บริหารทุกคน รวมถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่มีการซื้อขายหุ้นในช่วงนี้ ทุกคนยังถือหุ้นในอัตราส่วนเท่าเดิม