ทริสฯ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ 1.2 พันลบ.คงเครดิตองค์กร AP ที่ A-/Stable

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday June 6, 2012 13:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศผลอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 1,200 ล้านบาทของ บมจ.เอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์(AP) ที่ระดับ “A-" พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่มีประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ “A-" เช่นกัน โดยแนวโน้มยังคง “Stable" หรือ “คงที่" ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

อันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานของบริษัทที่เป็นที่ยอมรับในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ตลอดจนสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในโครงการทาวน์เฮ้าส์ในเมืองและคอนโดมิเนียม รวมถึงการมีสินค้าที่หลากหลายทั้งในด้านราคาและกลุ่มลูกค้า อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากธรรมชาติของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นวงจรขึ้นลง ตลอดจนแนวโน้มราคาวัสดุก่อสร้างที่สูงขึ้น และแรงกดดันจากภาระหนี้ที่เพิ่มขึ้นในระยะปานกลาง

ขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable" หรือ “คงที่" สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันที่เข้มแข็งในกลุ่มสินค้าหลักและจะสามารถปรับปรุงสินค้าให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของอุตสาหกรรมได้อย่างมีสมดุล นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะยังคงดำรงนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังต่อไปและจะสามารถลดอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้ลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 50% ได้ในระยะปานกลาง

ทริสเรทติ้งรายงานว่า AP ก่อตั้งในปี 2533 โดยนายอนุพงษ์ อัศวโภคิน และนายพิเชษฐ วิภวศุภกร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถือหุ้นรวมกันในสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของบริษัท ความแข็งแกร่งทางธุรกิจของบริษัทสะท้อนถึงความเป็นหนึ่งในผู้นำด้านตลาดทาวน์เฮ้าส์ใจกลางเมือง (“บ้านกลางกรุง" และ “บ้านกลางเมือง") และผลประกอบการที่ประสบความสำเร็จในตลาดคอนโดมิเนียมกลุ่มระดับราคาปานกลางถึงสูง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผลประกอบการของบริษัทเติบโตเป็นอย่างมากโดยมีสมดุลระหว่างกระแสเงินสดรับกับเงินลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการ

ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 AP มีรายได้อยู่ที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากมูลค่าโอนโครงการคอนโดมิเนียมที่เพิ่มสูงขึ้น ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้ของบริษัทในปี 2555 จะอยู่ในระดับที่น่าพอใจและคงได้รับผลกระทบในวงจำกัดจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตอุทกภัย ทั้งนี้ โครงการแนวราบของบริษัทหลายโครงการอยู่ในเขตเมืองชั้นในซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าจะรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 6-7 พันล้านบาทในปี 2555

AP มีอัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายอยู่ที่ 17.5% ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 ซึ่งลดลงเล็กน้อยจาก 19.9% ในปี 2554 ต้นทุนป้องกันน้ำท่วมและค่าก่อสร้างที่สูงขึ้นน่าจะส่งผลกระทบต่ออัตราส่วนกำไรในระยะสั้น นอกจากนี้ สัดส่วนรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ของบริษัทในกลุ่มราคาระดับล่างจะสร้างแรงกดดันต่ออัตราส่วนกำไรของบริษัทซึ่งสะท้อนการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดดังกล่าวจากผู้ประกอบการที่มีต้นทุนต่ำและผู้บริโภคที่มีความอ่อนไหวต่อราคาที่อยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งมองว่าแรงกดดันต่ออัตราส่วนกำไรจะไม่ส่งผลกระทบต่อบริษัทมากนักเมื่อคำนึงถึงประโยชน์จากการมีสินค้าที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น

อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของ AP ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2555 อยู่ที่ 56.2% ภาระหนี้ในระดับสูงสะท้อนถึงการใช้งบประมาณซื้อที่ดินที่สูงขึ้นและสินค้าคงเหลือที่สะสมเพิ่มมากขึ้น ทริสเรทติ้งคาดว่างบดุลของบริษัทจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้นในระยะปานกลางเมื่อรอบระยะเวลาการส่งมอบที่อยู่อาศัยและการเปิดตัวโครงการใหม่กลับสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะโครงการคอนโดมิเนียม

ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าแนวโน้มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังคงเติบโตจากแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่ดี โครงการแนวราบในพี้นที่ที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมน่าจะยังขายได้ดี ในขณะที่โครงการแนวราบในพื้นที่เสี่ยงจะมียอดขายที่ค่อนข้างช้า โดยทริสเรทติ้งคาดว่าคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยจนถึงปี 2556 ที่ผู้ประกอบการจะสามารถขายสินค้าคงเหลือในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีนัยสำคัญ การเติบโตของอุตสาหกรรมอาจหยุดชะงักลงหากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมกลับมาอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน

ปัญหาการขาดแคลนแรงงานกลายเป็นประเด็นสำคัญสำหรับผู้ประกอบการและทำให้ผู้ประกอบการหลายรายเริ่มหันมาพึ่งพาการก่อสร้างโดยใช้ชิ้นส่วนสำเร็จรูป (Precast) มากขึ้นเพื่อลดการพึ่งพิงแรงงาน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำจะกดดันอัตรากำไรของผู้ประกอบการเพียงในระยะสั้นเนื่องจากผลประกอบการในอดีตแสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการสามารถส่งผ่านต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังผู้ซื้อได้ในที่สุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ