ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 286.84 จุดจากข่าวอีซีบีพร้อมใช้มาตรการ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 7, 2012 06:56 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (6 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศความพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นหากเศรษฐกิจมีแนวโน้มอ่อนแอลง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 286.84 จุด หรือ 2.37% ปิดที่ 12,414.79 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 29.63 จุด หรือ 2.30% ปิดที่ 1,315.13 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 66.61 จุด หรือ 2.40% ปิดที่ 2,844.72 จุด

ราคาหุ้นพุ่งขึ้นทั่วทั้งกระดาน หลังจากอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีระบุว่า อีซีบีพร้อมดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้เกิดความคาดหวังว่าธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ รวมถึงเฟดจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเช่นกัน

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นเมื่อนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนต้ากล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะใช้มาตรการ Operation Twist โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ต่ำลง เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยและกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม

ขณะที่นักลงทุนบางส่วนมองว่า มาตรการ Operation Twist อาจไม่แข็งแกร่งพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ และคาดว่าเฟดอาจจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3

ในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย เฟดได้เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลางในช่วงต้นเดือนเม.ย.จนถึงปลายเดือนพ.ค. โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมมีการขยายตัว ขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์พื้นตัวขึ้น และการจ้างงานปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกมากขึ้น เมื่อนายวอร์เรน บัฟเฟตต์ ประธานและซีอีโอของเบิร์คเชียร์ แฮธาเวย์ กล่าวว่า โอกาสที่เศรษฐกิจของสหรัฐจะชะลอตัวลงสู่ภาวะถดถอยนั้นมีน้อยมาก แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะเป็นไปอย่างเปราะบางก็ตาม

บัฟเฟตต์กล่าวในงานที่จัดโดย Economic Club of Washington ว่า เศรษฐกิจจะไม่อ่อนตัวลงสู่ภาวะถดถอย ยกเว้นเสียแต่ว่า สถานการณ์ในยุโรปอยู่นอกเหนือการควบคุม และเกิดผลพวงต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ

นักลงทุนจับตาดูการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 19-20 มิ.ย. และจับตาดูนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดซึ่งจะแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสในคืนนี้ตามเวลาไทย

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนเม.ย. และข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนเม.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ