นายเจนวิทย์ ชินกุลกิจนิวัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในครึ่งปีหลังตั้งแต่เดือน ก.ค.-ธ.ค.55 บริษัทมีแผนจะออกตราสารใบสำคัญแสดงสิทธิ DW เพิ่มอีก 59 ตัว จากครึ่งแรกออกไป 41 ตัวมูลค่ารวมราว 1,200 ล้านบาท จากแผนปีนี้จะออกทั้งหมด 100 ตัว อ้างอิงหุ้นเดิมและหุ้นใหม่มูลค่ารวมราว 3,000 ล้านบาท
ในเดือนมิ.ย.นี้บริษัทจะออก DW 11 ตัว เป็น Call Option (สิทธิในการซื้อ) 8 ตัว Put option (สิทธิในการขาย) 3 ตัว และทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง,เป็นผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนให้กับ ETF 1 กองทุน คือ HK เป็นการออกร่วมกับบลจ.กรุงไทยจะเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์วันแรก 19 มิ.ย.นี้ ซึ่ง HK อ้างอิงดัชนีฮั่งเส็ง
นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมพร้อมออก DW ประเภทใหม่ๆ ที่ทางการจะอนุญาตในอนาคต ทั้งหลักทรัพย์อ้างอิงใหม่ เช่น SET50, SET100, ETF และหุ้นที่นอกเหนือจาก SET50 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)คาดว่าเกณฑ์จะเสร็จปลายปีนี้
ทั้งนี้ มูลค่าการซื้อขาย DW ที่ออกโดย KGI ตั้งแต่มีการออก DW ตัวแรก มีมูลค่ากว่า 46,000 ล้านบาท คิดเป็น 40% ของมูลค่าการซื้อขาย DW ทั้งตลาด โดยปัจจุบัน KGIออก DW ทั้งหมด 179 ตัว หรือ 1 ใน 3 ของ DW ออกทั้งตลาด ในปีนี้บริษัทก็ยังจะคงรักษาความเป็นผู้นำมูลค่าซื้อขาย DW ได้อยู่
นายเจนวิทย์ คาดว่าในช่วงครึ่งหลังภาวะตลาดยังจะผันผวนจากความกังวลเรื่องกรีซและปัญหาในยุโรป ซึ่งตลาดก็รับรู้ไปส่วนหนึ่งแล้วจึงเชื่อว่าจะหนุนให้ DW ทั้งCall Option และ Put Option เห็นการเก็งกำไรมากขึ้นในแง่ของนักเก็งกำไร เพราะได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง แต่ในแง่ของการบริหารความเสี่ยงต้องดูอีกที ซึ่งภาวะตลาดแบบนี้จะออก Call Option มากกว่า เพราะมองตลาดขาขึ้น
"กลยุทธ์การลงทุนใน DW ช่วงนี้นักลงทุนจะซื้อได้ทั้ง Call Option และ Put Option เพราะช่วงนี้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาทั้งการเมืองและปัจจัยต่างประเทศจะเอื้อต่อการเทรดอนุพันธ์ อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้มองตลาดหุ้นแย่ขนาดนั้นเพราะตลาดลงมาเยอะแล้วจากปัญาหากรีซและยุโรปตลาดก็รับรู้ไปพอสมควรแล้ว แต่ครึ่งหลังนี้จะต้องจับตาการเมืองในประเทศซึ่งจะมีน้ำหนักต่อการลงทุนมากขึ้น" นายเจนวิทย์ กล่าว