นายสัจจา เจนธรรมนุกูล ประธานกรรมการ บมจ.ระยองเพียวรีไฟเออร์ (RPC) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเข้าไปลงทุนทำเหมืองควอทซ์ในประเทศ เบื้องต้นอาจเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรในท้องถิ่น คาดมีข้อสรุปภายในปีนี้ โดยแร่ควอทซ์ที่เป็นผลผลิตจะนำไปใช้ในการผลิตแผงโซลาร์เซลล์และชิปในแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนในธุรกิจใหม่ในด้านอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
"ตอนนี้อยู่ระหว่างการศึกษาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเข้ามาชดเชยธุรกิจหลักที่ได้รับผลกระทบจากการที่ ปตท.หยุดส่งวัตถุดิบให้ตั้งแต่ ก.พ.ที่ผ่านมา ตอนนี้มีติดต่อเข้ามาหลายรายหลายธุรกิจ ก็ต้องศึกษาไปเรื่อยๆ ตอนนี้ที่น่าสนใจคือเหมืองแร่ควอทซ์คุยมา 6-7 เดือนแล้ว ส่วนเงินลงทุนยังไม่ชัดเจน อาจเริ่มตั้งแต่ 10-20 ล้านบาท ถึง 3-4 หมื่นล้านบาท"นายสัจจา กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการเจรจาขายโรงกลั่น 2 แห่ง ขณะนี้มีนักลงทุนต่างประเทศ 2-3 รายแสดงความสนใจ โดยบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งบริษัทตั้งราคาขายไว้ไม่ต่ำกว่า 1.8 พันล้านบาทไม่รวมราคาที่ดิน
นายสัจจา กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนที่จะเพิกถอนหุ้น RPC ออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพราะมั่นใจว่าจะชนะคดีความที่บริษัทฟ้องร้อง บมจ.ปตท. (PTT) กรณีหยุดส่งวัตถุดิบให้บริษัท โดยเรียกค่าเสียหายราว 2 หมื่นล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ คาดจะเรียกบริษัทและคู่กรณีเข้าไปไต่สวนในเดือน ก.ค.55
ส่วนการที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทในวันนี้ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากกำไรสะสม 500 ล้านบาท ในอัตรา 0.94 บาท/หุ้น เป็นวงเงินปันผลรวม 400 ล้านบาท โดยกำหนดจ่ายในวันที่ 15 มิ.ย.55 คาดว่าหลังการจ่ายปันผลจะทำให้กำไรสะสมลดลงเหลือ 14 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะนำไปใช้ในการต่อสู้คดีกับ ปตท.ต่อไป