ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าดีดตัวขึ้น 68 จุด หรือ 0.6% แตะที่ 12,487 จุด และดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.7% แตะที่ 1,325.2 จุด ณ เวลา 07.23 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ
ธนาคารกลางจีนประกาศในวันนี้ว่า ธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปีลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3.25% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 6.31% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2551 ที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งเพื่อระบายสภาพคล่องออกจากระบบการเงิน นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหดตัวของเศรษฐกิจจีน โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 8.1% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด กล่าวว่า ความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจอาจทำให้เฟดต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อปกป้องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่อยู่ในภาวะเปราะบาง
หุ้นไป่ตู้ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเสิร์ชเอ็นจิ้นรายใหญ่สุดของจีน พุ่งขึ้น 2.3% ขณะที่หุ้นเฟซบุ๊กดีดตัวขึ้น 1.1%
กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 383,000 ราย