ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นแข็งแกร่งหลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นานในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากข่าวธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นักลงทุนจับตาดูถ้อยแถลงของเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยคาดหวังว่าเบอร์นันเก้อาจจะส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 286.84 จุด หรือ 2.37% แตะที่ 12,414.79 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 12.68 จุด หรือ 0.96% แตะที่ 1,327.56 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 22.98 จุด หรือ 0.82% แตะที่ 2,867.98 จุด
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้แรงหนุนหลังจากธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปีลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3.25% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 6.31% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2551 ที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งเพื่อระบายสภาพคล่องออกจากระบบการเงิน นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 8.1% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ต่อสภาคองเกรสสหรัฐในวันนี้ ซึ่งแม้ว่านักลงทุนไม่มั่นใจว่าเบอร์นันเก้จะตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) หรือไม่ แต่ก็คาดว่าเบอร์นันเก้อาจจะส่งสัญญาณการใช้นโยบายการเงินเพิ่มเติม เมื่อพิจารณาจากแรงตึงเครียดในตลาดการเงินเมื่อไม่นานมานี้
หุ้นยูเอส สตีล คอร์ป พุ่งขึ้น 4% ขณะที่หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ อิงค์ ทะยานขึ้น 2%
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 2 มิ.ย. ลดลง 12,000 ราย มาอยู่ที่ 377,000 ราย ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรก หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมา 4 สัปดาห์ติดต่อกัน สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว