นายสาทิส ตัตวธร กรรมการผู้จัดการ บมจ.สาลี่อุตสาหกรรม(SALEE)เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/55 น่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรก โดยบริษัทยังคงเน้นกลยุทธ์ในการรักษาฐานลูกค้าเก่าและรุกขยายฐานลูกค้ารายใหม่ให้มากขึ้น ทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมพิมพ์ฉลากสินค้า กลุ่มชิ้นส่วนพลาสติก หรือแม้กระทั่งกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ดังนั้น น่าจะผลักให้ผลประกอบการปีนี้ของ SALEE เติบโตไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณกว่า 30% จากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 750 ล้านบาท โดยในปี 54 ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ไป 150 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะตั้งเป็นงบลงทุนในส่วนนี้อีก 150 ล้านบาท โดยจะเน้นซื้อเครื่องฉีดและเครื่องพิมพ์เป็นหลัก
"จะเห็นว่าธุรกิจทั้งในส่วนของ SALEE และ พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง ยังเติบโตได้ดีตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เนื่องจากสินค้าของบริษัท อิงกับภาคการส่งออกในธุรกิจอิเล็คทรอนิกส์และธุรกิจคอนซูเมอร์โปรดักส์ ที่ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในแต่ละปีบริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตเฉลี่ย 30% เพื่อรองรับคำสั่งซื้อที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องทุกปี ทำให้มั่นใจว่าปีนี้ผลการดำเนินงานน่าจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้"
อนึ่ง ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/55 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.55 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิรวม 45.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 148% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 54 ซึ่งมีกำไรสุทธิรวม 18.17 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 239 ล้านบาท จาก 179 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 34% หลังจากการผลิตชะลอไปในไตรมาส 4/54 จากปัญหาภาวะน้ำท่วม ดังนั้นคำสั่งซื้อที่เคยชะลอในช่วง เวลาดังกล่าวจึงทะยอยเข้ามาจำนวนมากในไตรมาส 1/55
นายสาทิส กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจของกลุ่มบริษัทยังสามารถขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมรถยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลทำให้มีคำสั่งซื้อจากลูกค้าเก่าและลูกค้ารายใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น จึงเดินหน้าขยายงานเชิงรุกในธุรกิจหลัก เพื่อขยายฐานลูกค้าเก่าและใหม่ โดยเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจของบริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไป