(เพิ่มเติม) MK ตั้งเป้าปี 55 รายได้โต 79% มาที่ 3 พันลบ.,กำไรโตทิศทางเดียวกัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 8, 2012 16:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.มั่นคงเคหะการ(MK) ตั้งเป้าปี 55 จะทำรายได้และยอดขายราว 3 พันล้านบาท โดยรายได้จะเติบโตจากปีก่อนราว 79% ขณะที่กำไรสุทธิจะเติบโตในทิศทางเดียวกัน ซึ่งบริษัทคาดว่าอัตรากำไรสุทธิในปีนี้จะสูงขึ้นจากปีก่อน แม้ว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะลดลงมาที่ 38% จาก 40% ในปี 54

แนวโน้มยอดขายและรายได้ในไตรมาส 2/55 สูงกว่าไตรมาส 1/55 และเชื่อว่าจะเร่งตัวขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากในปีนี้บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1.9 พันล้านบาท พร้อมทั้งทยอยปรับขึ้นราคาขายมาแล้ว 5% ในช่วงที่ผ่านมา และกำลังพิจารณาที่จะปรับขึ้นอีก 5% ในช่วงครึ่งปีหลังหากต้นทุนค่าก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้นอีก

บริษัทมีแผนจะออกและเสนอขายหุ้นกู้ในช่วงครึ่งปีหลัง จากวงเงินที่ได้รับการอนุมัติจากผู้ถือหุ้นราว 5 พันล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาโครงการใหม่ และบริษัทได้ตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ราว 1 พันล้านบาท

นางสาวชุติมา ตั้งมติธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายบัญชี-การเงิน MK กล่าวว่า ในปี 55 ตั้งเป้ารายได้ที่ 3 พันล้านบาท เติบโต 79% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.67 พันล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายที่ 3 พันล้านบาทเช่นกัน ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกมียอดขาย 890 ล้านบาท และคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรกจะทำยอดขายได้ราว 1 พันล้านบาท จากนั้นจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจากการเปิดโครงการใหม่และยอดขายโครงการเดิม

ในปีนี้บริษัทมีเป้าหมายเปิด 3 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 1.9 พันล้านบาท ประกอบด้วย โครงการบ้านเดี่ยว ชวนชื่น โมดัส รัตนาธิเบศร์ มูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท เปิดขายแล้วตั้งแต่ มี.ค.55 โครงการทาวน์เฮ้าส์ ชวนชื่น จรัญฯ3 มูลค่าโครงการ 1 พันล้านบาท เปิดขายในปลายเดือน มิ.ย. และโครงการทาวน์เฮ้าส์-โฮมออฟฟิศ ชวนชื่น โมดัส วิภาวดี มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท เปิดขายในไตรมาส 4/55

บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ที่ 38% ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนอยู่ที่ 40% เนื่องจากบริษัทได้มีการเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการแรกซึ่งกำหนดราคาขายต่ำ จึงมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 30% ขณะที่บ้านเดี่ยวจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40% และทาวน์เฮ้าส์ 35% อย่างไรก็ตาม ในปีต่อไปการพัฒนาโครงการคอนโดฯ จะมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 35%

อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนที่อยู่ระดับ 13.6% ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น โดยกำไรสุทธิจะเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้และยอดขาย

บริษัทตั้งงบลงทุนจัดซื้อที่ดินจำนวน 1 พันล้านบาทในปีนี้ และในช่วงครึ่งปีหลัง เตรียมออกหุ้นกู้วงเงินหลักพันล้านบาทจากวงเงินทั้งหมดที่ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น 5 พันล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งปีหน้ามีแผนพัฒนาคอนโดมิเนียม 3 โครงการ มูลค่าโครงการละ 1-2 พันล้านบาท จากแผนการเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 5 โครงการ

สำหรับการปรับขึ้นค่าแรงงานขั้นต่ำ ยอมรับส่งผลกระทบต่อต้นทุนการกาอ่สร้างที่เพิ่มขึ้นราว 7% ทำให้ช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการปรับราคาขายบ้านแล้ว 5% และอยู่ระหว่างการติดตามราคาวัสดุก่อสร้างที่อาจปรับขึ้นอีก ซึ่งมีโอกาสที่ครึ่งปีหลังบริษัทจะปรับขึ้นราคาขายบ้านอีก แต่โดยรวมในปีนี้จะปรับขึ้นราคาขายไม่เกิน 10%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ