(เพิ่มเติม) CHOW คาดกำไร Q2/55 สูงกว่า Q1/55หลังสเปรดฟื้นสู่ปกติ,ผลงานทั้งปีดีขึ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 8, 2012 17:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้(CHOW) คาดว่ากำไรในไตรมาส 2/55 จะทำได้สูงกว่าไตรมาส 1/55 ที่มีกำไรสุทธิราว 10 ล้านบาท เนื่องจากสเปรดเหล็กแท่งยาวฟื้นกลับสู่ระดับปกติ และบริษัทตั้งเป้ารายได้ไตรมาส 2/55 เติบโตเป็น 2 digit จากไตรมาส 1/55 ที่มีรายได้ 1.5 พันล้านบาท

บริษัทมั่นใจว่าทั้งปี 55 รายได้จะเติบโตราว 20-30% และกำไรก็จะเติบโตในทิศทางเดียวกัน โดยคาดปริมาณขายในปีนี้สูงขึ้นเป็น 3.4-3.6 แสนตัน จาก 2.8-3.0 แสนตันในปี 54 ขณะที่สเปรดจะสูงกว่าปีก่อนที่อยู่ในระดับ 5.8-6.0 บาท/กิโลกรัม ตามราคาและความต้องการของตลาดที่ปรับตัวดีขึ้น

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) กล่าวว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 2/55 จะสูงกว่าไตรมาส 1/55 หลังส่วนต่างระหว่างวัตถุดิบกับราคาขาย(สเปรด)ดีขึ้นจากช่วงไตรมาส 1 ที่ปรับลดลงจากค่าเฉลี่ยปี 54 ซึ่งอยู่ระดับ 5.80-6.00 บาท/กก.ขณะที่รายได้จะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักจากไตรมาส 1/55 ตามปริมาณความต้องการใช้เหล็กแท่งยาวที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่ารายได้รวมในปี 55 จะเติบโต 20-30% จากปี 54 ที่มีรายได้ 5.7 พันล้านบาท ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิเติบโตในทิศทางเดียวกับรายได้ โดยในปี 54 มีกำไรสุทธิ 185 ล้านบาท และคาดว่ายอดขายในปี 55 จะเพิ่มขึ้นเป็น 3.4-3.6 แสนตันต่อปี จากปีก่อนอยู่ที่ 2.8 -3.0 แสนตันต่อปี โดยในไตรมาส 1/55 มียอดขายแล้วกว่า 7 หมื่นตัน

"อุตสาหกรรมเหล็กแท่งยาวในปีนี้ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดเหล็กแท่งยาวในประเทศไทย ยังขาดแคลน ต้องพึ่งพาการนำเข้าถึงปีละกว่า 1 ล้านตัน ขณะที่กำลังการผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอ โดยความต้องการใช้เหล็กในทุกอุตสาหกรรมยังเติบโตต่อเนื่อง

... ขณะที่ภาพรวมในไตรมาส 2 ผลงานโดยรวมน่าจะดีกว่าไตรมาสก่อน เนื่องจากบริษัทขายได้มากขึ้นจากยอดขายที่มากขึ้นทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ เพราะทำให้บริหารสินค้าคงคลังได้ง่ายขึ้นและลดผลกระทบจากความผันผวนของค่าเงิน"นายอนาวิล กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ