บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น(AAV)เปิดเผยว่า ราคาหุ้นของบริษัทที่ร่วงลงมาต่ำกว่าราคาจองซื้อหุ้นที่เสนอขายให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก(IPO) เนื่องมาจากการเทขายของนักลงทุนรายย่อยจากความตื่นตระหนกที่ผู้บริหารได้ขายหุ้นออกมาในวันแรกที่เปิดทำการซื้อขาย ขณะที่นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศไม่ได้ขายออกมา เนื่องจากเข้าใจถึงเหตุผลการขายหุ้นของผู้บริหารเป็นอย่างดีแล้ว ดังนั้น จากนี้ไปบริษัทเตรียมจะเดินสายชี้แจงเหตุผลให้นักลงทุนรายย่อยได้เข้าใจด้วยเพื่อลดความกังวล
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/55 ปกติแล้วช่วงไตรมาส 2 จะชะลอตัวลงจากช่วงไฮซีซั่นในไตรมาส 1 แต่ในปีนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง อาจจะส่งผลดีต่อผลประกอบการของบริษัทในระยะนี้ให้ดีกว่าที่คาดไว้ก็เป็นเป็นได้
เมื่อเวลา 11.11 น.ราคาหุ้น AAV มาอยู่ที่ 3.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท (+1.91%) ขณะที่ราคา IPO อยู่ที่ 3.70 บาท
นายทัศพล แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า กลางสัปดาห์นี้ทีมผู้บริหารจะเริ่มเดินสายชี้แจงเหตุผลของการขายหุ้นบิ๊กล็อตต่อนักลงทุนรายย่อยในแต่ละโบรกฯ โดยจะพยายามไปทุกโบรกฯทั้งในกทม.และต่างจังหวัด
แต่ในส่วนของนักลงทุนสถาบันในและต่างประเทศที่จองซื้อหุ้น IPO ที่ผ่านมาไม่มีการขายหุ้นออก มีแต่จะซื้อเพิ่มเล็กน้อย ทำให้ปัจจุบันสัดส่วนต่างประเทศถือราว 8% กว่าๆ
นางทัศพล กล่าวย้ำว่า การขายหุ้นของผู้บริหารได้ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวนครบถ้วนแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)ก็อนุญาตให้ขายหุ้นไปชำระหนี้ธนาคารเครคิตสวิส ประเทศสิงคโปร์ วงเงินต้น 39 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีหุ้นแอร์เอเชียเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน โดยเงินที่ได้รับมาราว 3,000 ล้านบาทนำไปชำระหนี้ครบหมดแล้ว และจะไม่มีการขายหุ้นออกอีก
"ยอมรับว่าก่อน IPO ไม่ได้โรดโชว์ให้นักลงทุนรายย่อยรับทราบเรื่องที่จะต้องขายหุ้นออกเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ แต่เราไปให้ความสำคัญกับนักลงทุนสถาบันและพวกรายใหญ่มากกว่า จึงทำให้รายย่อย panic ขายหุ้นออกมาหลังเห็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทิ้งหุ้น ซึ่งแรงขายของผู้ที่ตกใจคงขายออกหมดไปแล้ว แต่นักลงทุนต่างประเทศและรายใหญ่เชื่อว่าจะถือยาว ยังนิ่งอยู่ ประกอบกับราคาหุ้นที่ปรับลงส่วนหนึ่งเพราะเอฟเฟกต์จากตลาดหุ้นโลกที่ผันผวนด้วย" นายทัศพล กล่าว
สำหรับราคาหุ้น AAV ในขณะนี้ที่ระดับ 3.20 บาท ยังไม่สะท้อนปัจจัยพื้นฐานหากมองถึงแผนงานที่จะมีเครื่องบินเพิ่มเข้ามาและแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/55 ซึ่งปกติรายได้จะต่ำกว่าไตรมาส 1 ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล แต่ปีนี้เนื่องจากราคาน้ำมันปรับลงมาจากช่วงไตรมาสแรกของปี ยังมีลุ้นว่าผลประกอบการจะออกมาดี เพราะกำไรจะมากหรือน้อยอยู่ที่ต้นทุนราคาน้ำมัน แต่ถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนคงต่ำกว่าเพราะไตรมาส 2/54 ราคาน้ำมันถูกกว่านี้ โดยปัจจุบันบริษัททำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันล่วงหน้าไว้ที่ 30-34% ถือว่าเหมาะสม ส่วนทั้งปี 55 ยังคงเป้ารายได้โต 20-25% กำไรเติบโตในทิศทางเดียวกัน
ขณะที่การย้ายสายการบินแอร์เอเชียจากสนามบินสุวรรณภูมิกลับมาให้บริการที่สนามบินดอนเมืองนั้น ขณะที่การเจรจาข้อตกลงเงื่อนไขรายละเอียดกับบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) คืบหน้า 80-90% แล้ว คาดว่าจะมีข่าวดีราวปลายเดือน มิ.ย.-ต้น ก.ค.นี้ โดยข้อดีของการย้ายบริการมาที่ดอนเมืองคือการขึ้น-ลงของเครื่องบินก็จะง่ายขึ้นและจะไม่แออัดเหมือนสุวรรณภูมิที่บางช่วงต้องบินวนรอ ซึ่งจะทำให้ประหยัดน้ำมันได้มาก เพราะต้นทุนน้ำมันถือว่าแพงที่สุด อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าจะมีสายการบินอื่นย้ายมาด้วยหรือเปล่า