นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์(LPN) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงรายได้ปีนี้ไว้ที่ 1.32 หมื่นล้านบาท แม้ว่าครึ่งปีแรกจะทำรายได้เพียง 3 พันล้านบาท เพราะเชื่อว่าครึ่งปีหลังรายได้จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายแล้ว 1 หมื่นล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 1.6 หมื่นล้านบาท
บริษัทมีแผนจะเปิดโครงการใหม่อีก 4-6 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง จากช่วงครึ่งปีแรกที่เปิดไปแล้ว 4-6 โครงการ โดยบริษัทกำลังมองหาที่ดินบริเวณชะอำ-หัวหินเพื่อเปิดโครงการในเมืองท่องเที่ยวเพิ่มเติมจากที่เปิดตัวในพัทยาไปแล้ว 1 โครงการ ขณะที่บริษัทได้ทยอยปรับขึ้นราคาขายโครงการใหม่ราว 5% ตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ LPN กล่าวว่า บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งปีนี้ราว 10-12 โครงการ โดยครึ่งปีแรกเปิดแล้ว 6 โครงการ ซึ่งในไตรมาส 2/55 จะเปิดโครงการใหม่ 3 โครงการมูลค่ารวม 6 พันล้านบาท จำนวน 5 พันยูนิต ทำเลย่านประชาชื่น ศรีนครินทร์ และรัตนาธิเบศน์
และในไตรมาส 3/55 และไตรมาส 4/55 จะเปิดโครงการใหม่ไตรมาสละ 2-3 โครงการ โดยส่วนหนึ่งเป็นการเปิดตัวโครงการในต่างจังหวัด 2 โครงการ คือที่หาดจอมเทียน เฟส 2 เปิดตัวในเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นโครงการต้นแบบในการพัฒนาโครงการอื่นๆในต่างจังหวัด ส่วนอีกแห่งอยู่ระหว่างการพิจารณาที่ดินในแถบ อ.ชะอำ หรือ อ.หัวหิน
สำหรับรายได้ในช่วงครึ่งปีแรกทำได้น้อยเนื่องจากโครงการต่างๆ ยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ แต่ในช่วงปลายปีจะมีโครงการสร้างเสร็จพร้อมส่งมอบให้ลูกค้าจำนวนมาก โดยเฉพาะเดือน พ.ย.ที่ต้องเร่งส่งมอบมากถึง 7 พันล้านบาท
"หลังน้ำท่วมการพัฒนาโครงการแนวราบเริ่มมีปัญหา คอนโดฯได้รับความสนใจทำให้มีการพัฒนาโครงการมากขึ้น ดังนั้นปีนี้สถานการณ์ตลาดคอนโดฯน่าจะดีขึ้น ทั้งดีมานด์และซัพพลาย และยังมีดีมานด์ใหม่ จากผู้ที่มีกำลังซื้อที่มองหาคอนโดฯเพื่อเป็นเซฟเฮ้าส์ เป็นบ้านหลังที่สอง หลังจากเกิดน้ำท่วม"นายโอภาส กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายโอภาส กล่าวว่า บริษัทไม่กังวลหลังจากมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายรายหันมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมในราคาระดับกลางมากขึ้น เนื่องจากบริษัทมีวิธีคิดที่เน้นการต่อสู้กับตัวเอง ประกอบกับ กลุ่มลูกค้าจะเป็นลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ซึ่งยังมีความต้องการที่อยู่อาศัยอยู่มาก
"ดีใจที่เราสามารถทำให้ developer อื่นๆมาพัฒนาโครงการแบบนี้ได้ เพราะสินค้าที่ออกไป หากราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทจะยังมีความต้องการสูง และสะท้อนว่าเราไม่ได้ช่วงชิงตลาด แต่มา support ตลาด"นายทิฆัมพร กล่าว
และในโอกาสครบรอบการดำเนินธุรกิจ 23 ปี ก้าวสู่ปีที่ 24 ของ LPN จึงได้จัดกิจกรรม LUMPINI BIG SHOCK ในวันที่ 21-24 มิ.ย.55 โดยคัดสรรโครงการคุณภาพใน 6 ทำเล คือ ลุมพีนี คอนโดทาวน์ รามอินทรา-ลาดปลาเค้า ,ลุมพีนี เมกะซิตี้-บางนา, ลุมพินี พาร์ค ริเวอร์ไซด์-พระราม3 , ลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 109-แบริ่ง , ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-เพชรบุรีตัดใหม่ และลุมพินี วิลล์ แจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ดกว่า 2.7 พันยูนิต มูลค่ารวม 4-5 พันล้านบาท
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมได้ง่ายๆ ราคาเริ่มต้นผ่อนเพียง 5 พันบาท ผ่อนนาน 55 เดือน ฟรีทุกค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายๆต่างๆสำหรับผู้ที่ผ่านการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร ทั้งค่าโอนกรรมสิทธิ์ 1% ของราคาคอนโด ค่าจดจำนอง 1% ค่าเงินกองทุน ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า-ประปา ค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เบี้ยประกันอาคารชุด ค่ารักษามาตรน้ำ รวมวงเงินที่ประหยัดถึง 2.4 แสนบาท