นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า(EGCO) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนประมาณ 1.7-1..8 หมื่นล้านบาทในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ขนาด 900 เมกะวัตต์ ในจ.นครศรีธรรมราช เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าขนอมที่กำลังจะหมดอายุสัมปทานลง โดยแหล่งเงินส่วนใหญ่มาจากเงินกู้ราว 70% ของเงินลงทุน คาดว่าจะเริ่มสร้างในปี 56 และแล้วเสร็จในปี 59 ทั้งนี้จะรับรู้เป็นกำไรอย่างน้อยปีละ 500 ล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทเตรียมเข้าร่วมประมูลโรงไฟฟ้า IPP รอบใหม่ จำนวน 2 โรง ตามที่บริษัทได้มีที่ดินแล้วในบริเวณเดียวกับโรงไฟฟ้าระยองเดิม ซึ่งการรับซื้อไฟฟ้ารอบใหม่เป็นไปตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้า(PDP)ฉบับปรับปรุงใหม่ที่กำลังจะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในวันที่ 12 มิ.ย.นี้
สำหรับการเจรจาเข้าซื้อเหมืองในอินโดนีเซีย บริษัทคาดว่าจะสรุปได้ภายใน 2 เดือนนี้ หรือภายใน ส.ค.นี้ โดยเหมืองถ่านหินที่เข้าเจรจาอยู่มีปริมาณสำรองประมาณ 100 กว่าตัน ตั้งอยู่บนเกาะสุมาตรา
นายสหัส กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะได้ข้อสรุปการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เจรจาอยู่ 1-2 ดีลๆละ 7-8 เมกะวัตต์ เงินลงทุนโครงการละประมาณ 800 ล้านบาท โดยโรงไฟฟ้าที่เจรจาอยู่ก่อสร้างใกล้เสร็จแล้ว
ขณะที่บริษัทได้เจรจาเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม อยู่ 3 โครงการ บนพื้นที่จ.ชัยภูมิทั้งหมด รวม 200 เมกะวัตต์ คาดใช้เงินลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้คาดว่า EGCO เข้าไปถือหุ้นประมาณ 90% โดยปีนี้คาดว่าจะสรุปได้ 1 ดีล
นายสหัส กล่าวว่า ในไตรมาส 2/55 คาดว่ากำไรจะดีกว่าในไตรมาส 1/55 เนื่องจากมีกำไรเพิ่มจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 3 แห่งเข้ามา แต่เพิ่มขึ้นไม่มาก และทั้งปีคาดว่ากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นมามากกว่า 5 พันล้านบาท โดยส่วนที่ได้เพิ่มมาจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าถ่านหินเคซอนที่เพิ่มการลงทุนเป็น 98% จาก 52% ทำให้มีกำไรเพิ่มเข้ามาอีกประมาณ 500 ล้านบาท จากปีก่อนได้รับ 1 พันล้านบาท และถ้าถือเต็มปีก็ได้กำไรปีละ 2 พันล้านบาท
"กำไรครึ่งปีหลังจะเห็นชัดกว่า ส่วนใหญ่โรงไฟฟ้าใหม่ๆ หรือที่เข้าลงทุนใหม่ จะรับรู้ในครึ่งปีหลัง" นายสหัส กล่าว