ว่าที่ รท.อนิรุทธ์ ถนอมกุลบุตร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทได้หารือกับสายการบินต่าง ๆ ในเบื้องต้นมี 2 สายการบินที่ต้องการย้ายกลับมาทำการบินที่ท่าอากาศยานดอนเมืองด้วยความสมัครใจ ซึ่งเป็นสายการบินหลัก 1 แห่ง และสายการบินรองอีก 1 แห่ง คาดว่าจะได้ข้อสรุปชัดเจนปลายเดือน มิ.ย.นี้ และจะย้ายมาในเดือนส.ค.โดย AOT มีมาตรการจูงใจ ซึ่งจะได้ข้อสรุปเรื่องการลดหย่อนค่าธรรมเนียมให้กับสายการบินที่ย้ายกลับมาด้วย
"น่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดในสิ้นเดือนนี้ (มิ.ย.) เป้าหมายที่เราย้ายมาจากสุวรรณภูมิโดยความสมัครใจเพื่อลดความแออัดตรงนั้น และเราก็เร่งรัดโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิให้เล้วเสร็จโดยเร็ว ในทางกลับกันเราก็สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับดอนเมือง ในการใช้สินทร้พย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งสองท่าอากาศยาน" กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าว
ทั้งนี้ การย้ายมาของสายการบินทั้งสองรายจะทำให้จำนวนผู้โดยสารในท่าอากาศยานดอนเมืองเพิ่มมาเป็นประมาณ 10 ล้านคน/ปี จากปัจจุบันที่มีเพียงสายการบินนกแอร์ทำการบินที่ท่าอากาศยานดอนเมืองเท่านั้น โดยมีจำนวนผู้โดยสาร 3 ล้านคน/ปี จากขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด 16 ล้านคน/ปี
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า นอกจากการย้ายครั้งนี้จะช่วยลดความแออัดในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้ว ยังช่วยทำให้ท่าอากาศยานดอนเมืองทำรายได้เพิ่มเข้ามา ประกอบกับ ช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น ทำให้จำนวนผู้โดยสารในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิลดลงเหลือ 1.2 -1.3 แสนคน/วัน จากก่อนหน้าที่มีจำนวนถึง 1.7 แสนคน/วัน ขณะเดียวกัน บริษัทเร่งการก่อสร้างขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2
ส่วนแผนการปรับขึ้นภาษีสนามบินที่เรียกเก็บจากผู้โดยสาร (PSC) สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศอีก 100 บาท เป็น 800 บาท/คน ส่วนเส้นทางในประเทศจะขึ้นอีก 50 บาท เป็น 150 บาท/คน คาดว่าจะเริ่มเรียกเก็บเพิ่มได้ในงวดปี 56(ต.ค.55- ก.ย.56)โดยขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการการบินพลเรือน